ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ลดความสูงซากตึก สตง.เหลือ 1.37 เมตร เหลือโซน C - พบผู้ติดค้างเพิ่ม

อาชญากรรม
28 เม.ย. 68
11:35
1,695
Logo Thai PBS
ลดความสูงซากตึก สตง.เหลือ 1.37 เมตร เหลือโซน C - พบผู้ติดค้างเพิ่ม
อ่านให้ฟัง
03:15อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เจ้าหน้าที่ลดความสูงอาคาร สตง. ด้านหน้าถึงชั้น 1 คงเหลือ โซน C ที่ยังมีความลาดชัน ขณะที่เร่งปรับโครงสร้างให้สมดุล วันนี้ถอนแบคโฮจอมมารบู เสริมรถแบคโฮหัวกระแทกเข้ามาแทน

วันนี้ (28 เม.ย.2568) นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยความคืบหน้าการรื้อถอนซากอาคาร สตง. ซึ่งในวันนี้ครบกำหนดเวลา 1 เดือน ที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถลดทอนความสูงของโครงสร้างลงมาเหลือเฉลี่ยประมาณ 1.37 เมตร ซึ่งหากมองโครงสร้างด้านหน้าขณะนี้จะสามารถมองเห็นผนังของชั้นใต้ดินได้

โดยหากวัดระดับจากด้านข้างอาคารที่เป็นระดับเดียวกับพื้นชั้น 1 ก็จะเห็นว่าขณะนี้ระดับความสูงของโครงสร้างด้านหน้าลงมาเทียบเท่ากับบริเวณพื้นชั้น 1 แล้ว คงเหลือแต่โครงสร้างด้านหลัง ที่ยังคงมีความลาดเอียงชัน ซึ่งแผนการดำเนินงานในวันนี้จะมีการเร่งนำชิ้นส่วนโครงสร้างที่พังถล่มลงมาออกตรงจุดโซน C ใกล้อาคารจอดรถ โดยการแยกปูนและเหล็กออก เพื่อปรับโครงสร้างให้สมดุลกับจุดด้านหน้า และเพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงชั้นใต้ดินได้

สุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

สุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

สุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

ส่วนการนำผู้ติดค้างออกจากใต้ซากอาคารเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถนำร่างผู้ติดค้างออกมาได้เพิ่มเติม 1 คน จากบริเวณโซน D และเจอชิ้นส่วนเพิ่มเติมอีก 5 เคส ในกองซากอาคาร ขณะเดียวกัน ยังพบชิ้นส่วนอีก 1 ชิ้น ที่กองเศษปูน

สำหรับปัญหาที่พบ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคง ต้องมีการปรับแผนการทำงานอย่างต่อเนื่อง เช่นการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ ในบางโซนที่ต้องใช้กำลังคน ปรับเครื่องจักรให้สอดคล้องระดับชั้นความสูงและพื้นที่ ซึ่งวันนี้จะมีการปรับแผนถอนการใช้รถแบคโฮ SK-1000 หรือ จอมมารบู ออกจากพื้นที่เพราะสภาพโครงสร้างขณะนี้ต่ำกว่าระดับเซนเซอร์ที่เครื่องจักรจะสามารถตรวจสอบได้ โดยจะมีการเสริมรถแบคโฮหัวกระแทกเข้ามาแทน

ซึ่งตลอดระยะเวลา 30 วันที่ผ่านมา ส่วนตัวค่อนข้างพอใจกับผลการปฏิบัติงานเพราะต้องยอมรับว่า การถล่มลงมาของอาคาร ซึ่งการจะขุดไปถึงชั้นใต้ดินได้หลังจากนี้ ยังไม่สามารถประเมินได้เนื่องจากมีอุปสรรค เนื่องจากลักษณะคอนกรีตมีความสมบูรณ์ บางจุดมีเศษซากชิ้นส่วนแตกหัก ซึ่งก็เป็นปัญหาที่แตกต่างกัน แต่เบื้องต้นกำหนดเป้าหมายว่าจะดำเนินการให้ได้วันละ 1 เมตร ซึ่งหากสามารถทำได้การทำงานก็จะเสร็จได้รวดเร็วขึ้นแต่ยืนยันภายในเดือน พ.ค.จะสามารถเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดได้แล้วเสร็จอย่างแน่นอน

อ่านข่าว : 

ดีเอสไอ เปิด 24 ตู้คอนเทนเนอร์ หาหลักฐานอาคาร สตง.ถล่ม

คาด 28 เม.ย.รื้อถอนซากตึก สตง.ถึงชั้น 1 - พบผู้ติดค้างเพิ่ม 1 คน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง