เฝ้าจับตาน้ำป่าไหลหลาก-ดินถล่ม

ตลอดทั้งวันของเมื่อวานนี้ (25 ก.ย.) เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานยังคงเร่งฟื้นฟูสภาพความเสียหายภายในหมู่บ้านเปียงกอก ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ที่เสียหายหนักจากน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม ก่อนจะติดตั้งบ้านน็อกดาวน์ให้แก่ชาวบ้านที่บ้านเสียหายทั้งหลัง จำนวน 5 หลัง และเสียหายบางส่วน 24 หลัง รวมทั้งทำสะพานแบริ่ง เพื่อให้การสัญจรกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว ขณะที่ชาวบ้านต้องจัดเวรยามเฝ้าระวังน้ำป่าที่อาจเกิดซ้ำ หลังได้รับแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปกว่า ฝนที่ตกต่อเนื่องก่อนหน้านี้ ทำให้สภาพดินในพื้นที่อุ้มน้ำมาก จนเสี่ยงที่จะถล่มลงมาได้อีก หากมีฝนตกลงมาเพิ่ม

 

ส่วนที่จังหวัดนครสวรรค์ หลายพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะที่ชุมชนเกาะยม เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ ชาวบ้านบางส่วนต้องอาศัยเรือเป็นที่นอนหลับพักผ่อน หลังบ้านถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 5 เมตร ทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ขณะที่ทรัพย์สินที่เหลือบางส่วนก็ต้องใส่ไว้ในภาชนะที่ลอยน้ำได้

 

ที่จังหวัดอุทัยธานีพบว่า ระดับน้ำที่ท่วมในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 5 เซนติเมตร โดยเฉพาะเขตอำเภอเมือง ที่มีระดับท่วมสูงเป็นประวัติการณ์ และยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ทำให้ร้านค้าและสถานประกอบการในตัวจังหวัดเกือบทั้งหมดต้องปิดกิจการชั่วคราว โดยเฉพาะพื้นที่รอบนอก ส่วนพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสะแกกรัง ที่มีน้ำท่วมสูงเกือบ 4 เมตร หลายครอบครัวต้องทิ้งบ้านที่ถูกน้ำท่วมถึงหลังคาชั้น 2 ไปอาศัยอยู่กับญาติชั่วคราว ส่วนคนที่ยังเป็นห่วงบ้านก็ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ต้องนำรถผลิตน้ำสะอาดไปจอดให้บริการกับชาวบ้านชั่วคราว หลังชาวบ้านขาดแคลนน้ำสะอาดในการบริโภค

 

ส่วนที่จังหวัดอ่างทอง น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านมาทางแม่น้ำน้อยและเอ่อล้นเข้าท่วมนาข้าวของเกษตรกรในอำเภอไชโยอย่างรวดเร็วเมื่อ 2 วันก่อน ทำให้ชาวนาต้องพายเรือเกี่ยวข้าว เนื่องจากน้ำที่ท่วมสูงทำให้รถเกี่ยวข้าวไม่สามารถลงไปได้ ขณะที่ชาวบ้านก็หวั่นเกรงเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากมีปลิงควายชุกชุม

 

ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้หลายชุมชนในอำเภอพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะชุมชนวัดกุฎีลาย ที่ถูกน้ำท่วมขังมาเกือบ 1 เดือน มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกกว่า 20 เซนติเมตร ชาวบ้านเกือบ 100 หลังคาเรือนเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากไม่สามารถใช้ห้องสุขาในบ้านได้ ชาวบ้านบางส่วนต้องไปใช้ห้องสุขาของวัดแทน ส่วนที่บริเวณตลาดท่าเรือและวัดสะตือในตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ ก็ถูกน้ำจากแม่น้ำป่าสักเอ่อเข้าท่วม สูงเกือบครึ่งเมตรแล้ว ชาวบ้านต้องเร่งขนของขึ้นที่สูง