เตือนรัฐให้คำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศมากกว่าส่วนตน

แม้ฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และกัมพูชา จะได้รับการยืนยันจากรัฐบาลว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารงานของรัฐบาล รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล แต่ต้องยอมรับว่า แกนนำ นปช.ที่ไปร่วมงานครั้งนี้ หลายคนมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับรัฐบาลโดยตรง และหลายคนทำหน้าที่เป็น ส.ส.ในสภาชุดปัจจุบัน

 

หลังการเตะฟุตบอลกระชับมิตร ยังมีรายงานด้วยว่า สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรี ได้ส่งเลขาฯ ส่วนตัวเป็นตัวแทนจัดงานเลี้ยงรับรองคณะของ นปช.ที่เดินทางไปร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า รถของกลุ่มกองเชียร์แนวร่วม นปช.ที่เดินทางไปเกิดอุบัติเหตุ ได้รับบาดเจ็บ 9 คน ในจำนวนนี้มีบาดเจ็บสาหัส 2 คน

 

การจัดกิจกรรมร่วมกันในครั้งนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นการสะท้อนภาพความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างกลุ่ม นปช. ที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโดยตรง ทำให้หลายฝ่ายห่วงใยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศจะเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับการผลักดันนโยบายต่างๆ ผ่านทาง พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับนโยบายเร่งด่วนด้านต่างประเทศของรัฐบาลที่ต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสนิทสนมระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ และนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประเด็นนี้ถูกฝ่ายค้านโจมตีว่าอาจมีวาระผลประโยชน์ซ่อนเร้นในความสัมพันธ์ ซึ่งรวมถึงการโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงการต่างประเทศ และเปลี่ยนตัวคณะต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร ที่อาจจะส่งผลกระทบกับความต่อเนื่องของการทำงาน

 
  
 

ขณะที่รศ.จุลชีพ ชินวรรโณ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยอมรับว่า ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชามีการเมืองภายในประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง และรัฐบาลปฏิเสธไม่ได้ว่า ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นมาจากบทบาท พ.ต.ท.ทักษิณ

 

ส่วนนายวีระพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการอิสระด้านกฎหมาย มองประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อนว่า แม้จะมีข้อกำหนดว่าการตกลงใดๆ ที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศจะต้องผ่านรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 แต่รัฐบาลจำเป็นต้องชี้แจงความโปร่งใสต่อสาธารณชนในการเจรจาผลประโยชน์ของประเทศ ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณควรลดบทบาทเป็นเพียงให้คำปรึกษาเท่านั้น

 

แม้แนวโน้มความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศจะแสดงภาพความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างกัน แต่ยังมีประเด็นที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ทั้งกรณีปัญหาตามแนวชายแดน และความชัดเจนเกี่ยวกับความร่วมมือด้านต่างๆ ที่ต้องมีการพิจารณาเป็นพิเศษ เพราะจะต้องแยกแยะประเด็นความสัมพันธ์ที่ดีกับการทำเพื่อเอื้อผลประโยชน์ออกจากกันให้ชัดเจน เพื่อชี้แจงให้ได้ว่า ข้อตกลงหรือความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ จะไม่ทำให้ไทยต้องเสียประโยชน์