ทำเนียบจัดงานยกย่องผู้เสียสละ ทำดีไม่หวังสิ่งตอบแทน มอบรางวัล “คนดีศรีสังคม”
พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบใบประกาศเกียรติคุณ “คนดีศรีสังคม” และของที่ระลึกให้แก่ผู้ที่ได้รับรางวัล “คนดีศรีสังคม” จำนวน 21 คน โดยผู้ได้รับการพิจารณาให้เป็น “คนดีศรีสังคม” จะต้องมีคุณลักษณะในการกระทำความดีจนเป็นที่ประจักษ์ และเป็นแบบอย่างแก่คนทั่วไป ทั้งนี้ โครงการ “ส่งเสริมคนดีศรีสังคม” นี้ ตั้งแต่ปี 2550 ที่ผ่านมามีผู้ที่ได้รับรางวัลคนดีศรีสังคมไปแล้ว รวม 103 คน และในครั้งนี้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติได้พิจารณาคัดเลือก “คนดี” ตามแนวทางและหลักเกณฑ์ได้ จำนวน 21 คน เพื่อเข้ารับรางวัลวันที่ 29 กันยายน โดยแบ่งเป็น 3 กรณี คือ
1.ผู้แสดงออกซึ่งความเมตตา กรุณา ต่อเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยากด้วยการอุทิศตนให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน 3 คน
1.1กลุ่มทีมงานกระปุกบุญ อาสาสมัครสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ (สวพ. FM 91) โดยมีนายทองคำ ร่วมรักบุญ อายุ 60 ปี อาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่) เป็นหัวหน้าทีม ตลอดเวลา 17 ปี ที่ผ่านมา นายทองคำได้ปฏิบัติตนเป็นคนดี เสียสละ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ดูแลคนในสังคม เป็นที่ยอมรับของสมาชิกและบุคคลทั่วไป เป็นผู้นำในการจัดกิจกรรมที่แสดงออกถึงความจงรักภักดีและการรวมน้ำใจ เช่น โครงการวิ่งเพื่อพ่อ โดยหักค่าโดยสารเที่ยวละ 5 บาท ถวายโดยเสด็จพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นต้น
1.2 นายสวน แพงมา อายุ 37 ปี อาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง (วินหน้า สน.นางเลิ้ง) ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้กำลังจะผูกคอเพื่อฆ่าตัวตายทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บ
1.3 นายสุรัตน์ วงศ์ชาญศิลป์ นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร อายุ 52 ปี อาชีพนักธุรกิจ เปิดคลินิกเวชกรรมสุรัตน์ให้บริการรักษาผู้ป่วยฟรีทุกโรคแก่คนทั่วไป ยกเว้นโรคมะเร็ง
2. ผู้แสดงออกซึ่งการปกป้อง พิทักษ์สังคมด้วยความกล้าหาญ เสียสละ โดยไม่เกรงกลัวต่อภยันตราย 2 คน คือ นายวรพจน์ เลาหะวนิช อายุ 35 ปี อาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่) ขับรถปาดหน้ารถแท็กซี่ซึ่งมีคนร้ายนั่งอยู่จนสามารถจับกุมคนร้ายได้ และนายนราธิป เจ๊ะน๊ะ อายุ 28 ปี อาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่)
นำผู้โดยสารซึ่งมียาบ้า ประมาณ600 เม็ด ส่งตำรวจ
3.ผู้แสดงออกถึงความซื่อสัตย์สุจริต เช่น ไม่ยักยอก หรือนำเอาทรัพย์สินซึ่งมีค่าของผู้อื่นมาเป็นของตน ทั้ง ๆ ที่มีโอกาสจะกระทำได้ ๑๖ คน คือ
นายด่วน โสสาร อายุ 33 ปี อาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่) เก็บกระเป๋าสัมภาระสีดำ ภายในบรรจุเงินสด จำนวน 6,500 ดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา และเงินบาทไทย จำนวน 26,000 บาท รวม 2 แสนกว่าบาท ส่งคืนเจ้าของชาวพม่า
นายประสิทธิ์ คำฝอย อายุ 47 ปี อาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่) เก็บกระเป๋าสีดำภายในบรรจุเงินสด จำนวน 39,900 บาท ส่งคืนเจ้าของ
นายสิทธิศักดิ์ ตั้งไพร 17 ปี อาชีพรับจ้าง เก็บกระเป๋าธนบัตรสีดำ ภายในบรรจุเงินสด จำนวน 15,930 บาท ส่งคืนเจ้าของ
นายศุภณัฐ จันทร์ทัพ 19 ปี นักเรียนโรงเรียนการไปรษณีย์ เก็บกระเป๋าธนบัตรสีน้ำตาล ภายในบรรจุเงินสด จำนวน 18,681 บาท ส่งคืนเจ้าของ
นายพีรเชษฐ์ นำศรีสดใส อายุ 37 ปี อาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่) เก็บกระเป๋าสะพายพร้อมทรัพย์สินมีค่า กล้องถ่ายรูป เงินสด จำนวน 9,500 บาท ส่งคืนเจ้าของชาวออสเตรเลียน
เด็กหญิงศุภนิดา ไชยรัตน์ 9 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนธัมมสิริศึกษาสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ร่วมกับเด็กชายกรกช อรุณ อายุ 6 ปี นักเรียนชั้นอนุบาล 3โรงเรียนสัตหีบ เขตฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และเด็กหญิงชลธิชา เข็มเพชร 7 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวัดท่าช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี กลุ่มเยาวชนพลเมืองดีร่วมกันเป็นผู้เก็บกระเป๋าเงิน ภายในมีเงินสดจำนวน 10,000 บาท ส่งคืนเจ้าของ
นายอักษร นพรัตน์ธนากร อายุ ๕๐ ปี อาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่) เก็บกระเป๋าธนบัตร ภายในบรรจุเงินสด จำนวน ๒๐๘,๕๒๘ บาท ส่งคืนเจ้าของ
นายจำรูญ ฝางแก้ว อายุ ๓๓ ปี อาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่) เก็บกระเป๋าถือภายในบรรจุเงินสด จำนวน 500,000 บาท ส่งคืนเจ้าของชาวกัมพูชา
นายสมศักดิ์ สติพลัน อายุ ๓๙ ปี ลูกจ้างร้านขายของชำในตลาดโพธิสาร อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เก็บเงินสด จำนวน 94,000 บาท ซึ่งอยู่ในช่องรับฝากเงินของตูhเอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโลตัส พัทยาเหนือ ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตามหาเจ้าของ
นายศุภวิชญ์ ศรีกังวาล 16 ปี และนายฐกุณฑลบุตร บัววัฒนา 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอมาตยกุล กรุงเทพฯ เก็บกระเป๋าธนบัตรสีน้ำตาล ภายในบรรจุเงินสดประมาณ 14,000 บาท ส่งคืนเจ้าของ
นายสมบัติ สิริธีรวุฒิ อายุ 49 ปี อาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่) เก็บเงินสด จำนวน 100,000 บาท ซึ่งหล่นอยู่บริเวณซอกที่นั่งผู้โดยสารตอนหน้า ส่งคืนเจ้าของ
นายอุดม โพธิ์ลังกา 60 ปี อาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่) เก็บกระเป๋าสัมภาระ บรรจุทรัพย์สินนาฬิกาแบรนด์เนม เรือนละ 1 ล้าน และ 5 แสนบาท มูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท ส่งคืนนักธุรกิจเรือเช่าจังหวัดภูเก็ต ชาวญี่ปุ่น
นายณรงค์ศักดิ์ พิสุทธิ์ธาราชัย อายุ 49 ปี อาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่) เก็บเงินสดประมาณ 500,000 บาท อยู่ในถุงหิ้วพลาสติกสีขาว ซึ่งผู้โดยสารลืมไวhบริเวณที่วางเท้าผู้โดยสารเบาะหลัง ส่งคืนเจ้าของ