มือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีเมืองซูรุคของตุรกี เสียชีวิตกว่า 30 คน
มือระเบิดฆ่าตัวตายก่อเหตุจุดชนวนระเบิดตัวเองที่ศูนย์วัฒนธรรมในเมืองซูรุค เมืองพรมแดนทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีติดกับซีเรีย แรงระเบิดสร้างความเสียหายอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 คนและได้รับบาดเจ็บอีก 100 คน โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสมาชิกของสหพันธ์ยุวชน "เดอะ เฟเดอเรชั่น ออฟ โซเชียลลิสต์ ยูธ แอสโซซิเอชั่น" (The Federation of Socialist Youth Associations) ที่กำลังประชุมหารือเพื่อเตรียมเดินทางข้ามพรมแดนเข้าไปช่วยฟื้นฟูเมืองโคบานี ของซีเรียที่เคยตกอยู่ในความยึดครองของกลุ่มไอเอสมาเป็นเวลาหลายเดือน ก่อนที่กองกำลังนักรบชาวเคิร์ดจะยึดเมืองกลับคืนมาได้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป เอร์โดอาน ผู้นำตุรกี ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนไซปรัส ประณามเหตุระเบิดฆ่าตายที่เกิดขึ้นว่าเป็นการก่อการร้าย แม้ว่าจะยังไม่มีกลุ่มใดอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุ แต่นายอาห์เมท ดาวูโตกลู นายกรัฐมนตรีของตุรกีเชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มไอเอส และหากได้รับการยืนยันว่าเป็นการกระทำของกลุ่มไอเอสจริง ก็นับเป็นครั้งแรกที่กลุ่มไอเอสก่อเหตุโจมตีตุรกี ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาอำนาจทางการทหารในภูมิภาคและเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้)
หลังเหตุระเบิดมีความวุ่นวายเกิดขึ้นตามมาในนครอิสตันบูล เมื่อผู้ประท้วงออกมาชุุมนุมประณามเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในเมืองซูรุคและโทษว่าเป็นความผิดของรัฐบาล แต่การชุมนุมกลายเป็นความรุนแรง เมื่อผู้ประท้วงพากันขว้างปาขวดน้ำและก้อนหินเข้าใส่ตำรวจที่ระดมกำลังเข้ามารักษาความสงบ ทำให้ตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำเข้าสลายกลุ่มผู้ประท้วง