เล็งบรรจุแผนพลังงานเข้าแผนสภาพัฒน์ฯ
กระทรวงพลังงานเตรียมนำแผนพลังงานแห่งชาติบรรจุเข้าในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 เป็นครั้งแรก โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2555 พร้อมเร่งให้โรงงานอุตสาหกรรมนำพลังงานจากก๊าซชีวภาพในโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น
นายสิทธิโชติ วันทวิน ผู้อำนวยการสำนักนโยบายอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างบรรจุแผนพัฒนาพลังงานแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยแผนพัฒนาพลังงาน แผนอนุรักษ์พลังงาน แผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้า 20 ปี (PPP) บรรจุเข้าไปแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2555
นายสิทธิโชติกล่าวอีกว่า นับตั้งแต่ปี 2549 ถึงปัจจุบันมีโรงงานติดตั้งระบบผลิตและใช้ก๊าซชีวภาพกว่า 200 แห่ง ขณะที่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีทั้งจากระบบการผลิต การลำเลียงก๊าซ และระบบนำก๊าซไปใช้งาน ทั้งนี้สำนักเทคโนโลยีความปลอดภัยพบว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากความผิดพลาดในการออกแบบหรือติดตั้งระบบผลิตและจัดเก็บก๊าซ รวมถึงอุปกรณ์ความปลอดภัย สำนักนโยบายอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนจึงเตรียมเร่งสร้างความเข้าใจ โดยเฉพาะ 3 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ, จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครราชสีมา
ขณะที่ปี 2551-2555 สำนักนโยบายอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนมีแผนส่งเสริมเทคโนโลยีก๊าซชีวภาพให้ครอบคุลมโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีศักยภาพจำนวน 338 แห่ง โดยใช้เงินจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานวงเงิน 3,982 ล้านบาท คาดว่าจะผลิตก๊าซได้ปีละ 637 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นมูลค่าปีละ 4,950 ล้านบาท โดยเชื้อเพลิงประเภทนี้ราคาต้นทุนอยู่ที่กิโลกรัมละ 6 บาท เทียบกับ LPG ที่ 18.13 บาท และผลจากการดำเนินงานถึงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 100 แห่ง สามารถผลิตก๊าซชีวภาพได้ปีละ 534 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือทดแทนแทนไฟฟ้าได้ปีละ 500 ล้านหน่วยต่อปี
นายพฤกษ์ อักกะรังสี รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงการที่รัฐบาลเตรียมปรับราคา LPG และ NGV ตามราคาตลาดว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะช่วยให้ลดประหยัดการใช้เชื้อเพลิงประเภทนี้ และหันมาใช้พลังงานทดแทน และหากเกรงมีการลักลอบถ่ายเทก๊าซจากภาคครัวเรือนไปภาคขนส่ง ก็สามารถใช้การแต่งสีและกลิ่นให้ต่างกันได้