แรงงานเกือบ 5 หมื่นคนได้รับผลกระทบน้ำท่วม
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานขอความร่วมมือนายจ้างช่วยลูกจ้างที่เดินทางไปทำงานไม่ได้สามารถหยุดงานโดยไม่ถือเป็นวันลาฯ หลังมีโรงงานได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทั่วประเทศแล้วนับพันแห่ง มีแรงงานหยุดงานกว่า 30,000 คนขณะที่นิคมอุตสาหกรรมในพระนครศรีอยุธยาต่างเร่งเสริมคันดินป้องกันน้ำทะลักเข้าโรงงาน
พนักงานส่วนใหญ่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทยอยกลับบ้านหลังโรงงานประกาศปิดชั่วคราว ท่ามกลางข่าวลือตลอดทั้งวันว่า ปริมาณน้ำมีมากเกินคันดินกั้นน้ำ และ จะไม่สามารถต้านทานแรงน้ำได้
สำหรับเครื่องจักร และ อะไหล่ชิ้นเล็กโรงงานบางแห่งได้ขนย้ายไปเก็บบริเวณชั้น 2 พร้อม นำกระสอบทรายมาป้องกันน้ำรอบโรงงาน พร้อมกับมีรายงานข่าวว่า กระสอบทรายในพื้นที่จังหวัดอยุธยาเริ่มขาดแคลน
เจ้าหน้าที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ เปิดเผยว่า ได้เร่งเสริมคันดินกั้นน้ำขึ้นอีก 1.50 เมตร จากเดิมที่สูงกว่าระดับน้ำที่ 4.50 เมตร เพื่อป้องกันน้ำจากคลองข้าวเม่า ทะลักเข้ามา แต่ยืนยันว่า ระดับน้ำขณะนี้ยังไม่ถึงจุดวิกฤต
สำหรับนิคมอุตสาหกรรมบางปะอินได้ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ และ พนักงานถึงแผนรองรับ โดยเสริมคันดินกันน้ำเพิ่มอีก 1 เมตร เพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมในนิคมฯ และ ขยายวงกว้างไปยังจังหวัดปทุมธานี ขณะที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการขนย้ายอุปกรณ์เครื่องจักรออกจากเขตประกอบการเสรีได้ โดยประสานขออนุญาตกรมศุลกากร
ส่วนกระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า มีโรงงานหยุดการผลิตทั่วประเทศแล้ว 1,166 แห่ง แรงงานหยุดงาน 35,000 คน ยังไม่รวมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครที่เพิ่งได้รับความเสียหายจนต้องหยุดการผลิตจำนวน 49 แห่ง และ มีแรงงานได้รับผลกระทบกว่า 10,000 คน
ขณะที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ ซึ่งมีโรงงาน 179 แห่ง มีแรงงานประมาณ 100,000 คน โรงงานบางแห่งได้หยุดการผลิตแล้ว ล่าสุดกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานขอความร่วมมือผู้ประกอบการช่วยลูกจ้างที่ไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้หยุดงานโดยไม่ถือเป็นวันลา และ ไม่มีความผิด รวมถึงให้คณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบการดูแลเรื่องรายได้ของลูกจ้างตามสมควร
นายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยเรียกร้องให้นายจ้างเห็นใจผู้ใช้แรงงานด้วยการเยียวยารายได้ช่วงที่ไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ โดยให้แรงงานทำงานประเภทอื่นแทน เพราะหากถูกปลดออกจากงานจะทำให้สภาพจิตใจแย่ลง
