กทม.เร่งระบายน้ำวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทีมข่าวไทยพีบีเอสลงพื้นที่สำรวจเขตดอนเมืองถือเป็นด่านแรกของกรุงเทพมหานคร ที่มีการประเมินว่าหากน้ำเหนือไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ในปริมาณ 5,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้น้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ โดยพบว่าประชาชนในพื้นที่แขวงทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง ได้เตรียมการรับมือไว้บางส่วน โดยก่อกำแพงปูนเตรียมกระสอบทราย ขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง ขณะที่บางคนนำรถยนต์ไปจอดไว้นอกพื้นที่ ขณะที่ชาวหมู่บ้านแหลมทอง ยอมรับว่าไม่ประมาทและเตรียมพร้อมเพื่อให้ทรัพย์สินเสียหายน้อยที่สุด
ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า กทม.ได้ระบายน้ำจากทางเหนือผ่านลงสู่อ่าวไทยที่ 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยอุโมงค์ยักษ์ที่สถานีสูบน้ำพระโขนงซึ่งเปิดเครื่องสูบน้ำเต็มกำลัง 4 เครื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง ได้รับน้ำจากคลองลาดพร้าว คลองแสนแสบ และ คลองประเวศบุรีรมย์ เข้าที่สถานีสูบน้ำพระโขนง ก่อนระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนใต้ ไหลลงอ่าวไทยวันละ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ยอมรับว่า กทม.มีโอกาสน้ำท่วม แต่จะเร่งดำเนินการระบายน้ำให้เร็วที่สุด
ส่วนฝั่งตะวันตกมีการผันน้ำลงสู่คลองทวีวัฒนาเลียบไปตัดคลองภาษีเจริญ ลงสู่แก้มลิงสนามชัย ที่คลองราชมนตรี สามารถสูบน้ำออกได้วันละ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะเดียวกันยอมรับว่าระดับน้ำในคูคลองชั้นในเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาทำได้ยาก โดยเฉพาะช่วงวันที่ 13 - 15 ตุลาคมนี้ ที่มีน้ำทะเลหนุนสูง โดยวันที่ 15 ตุลาคม จะมีระดับน้ำทะเลสูง 1.11 เมตร และน้ำทะเลจะขึ้นสูงสุดอีกครั้งในวันที่ 29 ตุลาคม ที่ระดับ 1.31 เมตร ส่งผลให้ กทม.ต้องเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด