แบงก์แนะสำรองเงินสดเพิ่มในภาวะน้ำท่วม

สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ ทำให้กระทบต่อการทำธุรกรรมทางการเงินบ้างแล้ว เนื่องจากมีธนาคาร และตู้กดเงินสด เอทีเอ็ม ปิดให้บริการชั่วคราวแล้ว ผู้บริหารธนาคารพาณิชย์แนะนำผู้อยู่ในพื้นที่ประสบภัย หรือพื้นที่เสี่ยง ควรจะสำรองเงินสดไว้ให้พอ โดยหากมีความจำเป็นธนาคารต้องปิดให้บริการ รวมถึงระงับการกดเงินจากตู้เอทีเอ็มด้วย

เริ่มมีเสียงสะท้อนของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครถึงการเบิกจ่ายเงินสดในบางพื้นที่ ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จากการสำรวจของทีมข่าวไทยพีบีเอสตามสถานที่ตั้งของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ทั้งพื้นที่กรุงเทพชั้นใน และเขตพื้นที่เสี่ยงพบว่าธนาคารพาณิชย์ต่างเร่งสร้างคันกั้นน้ำไว้เพื่อปกป้องไม่ให้น้ำเข้าสู่ตัวอาคาร ซึ่งหากน้ำท่วมจริง ธนาคารอาจต้องหยุดให้บริการ

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า ในปัจจุบันมีตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศงดให้บริการแล้วกว่า 2,000 แห่ง เฉพาะในกรุงเทพมหานครมี 800 แห่ง ผู้บริหารมีคำแนะนำจากธนาคารพาณิชย์กับผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงว่าจะถูกน้ำท่วม ควรเตรียมเงินสดที่ประเมินว่าจะเพียงพอกับการใช้ไว้ด้วยเพราะถ้าน้ำท่วมอาจใช้การไม่ได้เพราะต้องตัดไฟ

ผลกระทบจากน้ำท่วมทำให้ตู้เอทีเอ็มบางพื้นที่เริ่มไม่มีเงินสดให้บริการแล้ว โดยนายชาติชาย พายุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า จากปัญหาเส้นทางทำให้เจ้าหน้าธนาคารไม่สามารถเข้าไปเติมเงินได้ ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงว่าจะถูกน้ำท่วม ควรเตรียมเงินสดที่ประเมินว่าจะเพียงพอกับการใช้ไว้ด้วย

สำหรับผู้ประสบภัยที่ถูกน้ำท่วมจนทำให้เอกสารสำคัญหายไปแนะนำว่าอาจใช้บัตรประชาชนไปยืนยันตัวตน หรือแจ้งความว่าสมุดบัญชีหาย ซึ่งสามารถเข้ารับบริการกับธนาคารต่างสาขาได้ ซึ่งจากการหารือของสมาคมธนาคารไทยได้กำชับให้ธนาคารพาณิชย์ที่อยู่ในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม พยายามให้การช่วยเหลือและบริการลูกค้าให้ทั่วถึง โดยในพื้นที่ที่น้ำลดแล้ว จะเร่งเปิดให้บริการในทันที ส่วนพื้นที่ที่ธนาคารไม่สามารถเข้าไปให้การช่วยเหลือได้ จะประสานธนาคารอื่นให้เข้าไปช่วยเหลือลูกค้าแทนกันได้ ขณะนี้ ธนาคารพาณิชย์ปิดให้บริการชั่วคราว 227 สาขา ตู้เอทีเอ็ม งดให้บริการจำนวน 2,573 เครื่อง