ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

กรมอุทยานฯถกจนท.เดินหน้าแก้ปัญหารุกป่า หวังฟื้นฟูพื้นที่ป่าต้นน้ำเหนือ-อีสาน 8.3 ล้านไร่

Logo Thai PBS
กรมอุทยานฯถกจนท.เดินหน้าแก้ปัญหารุกป่า หวังฟื้นฟูพื้นที่ป่าต้นน้ำเหนือ-อีสาน 8.3 ล้านไร่

กรมอุทยานแห่งชาติฯ จัดประชุมเจ้าหน้าทื่ระดับปฏิบัติการทั่วประเทศ เดินหน้าป้องกันและปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำ เริ่มในพื้นที่ภาคเหนือ-อีสาน 13 จังหวัด มีเป้าฟื้นฟูให้ได้ 8.3 ล้านไร่

วันนี้ (11 ส.ค.2558) นายธัญญา เนติธรรมกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการสำหรับผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปราม ประจำปีงบประมาณ 2558

นายธัญญากล่าวว่า กรมอุทยานฯจัดการประชุมครั้งนี้เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานทราบถึงนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานที่ต้องดำเนินการตามแผนระดมความคิดเห็น วิเคราะห์สถานการณ์และสภาพปัญหา เพื่อให้การดำเนินการป้องกันและปราบปรามประสบความสำเร็จตามแผนที่ได้กำหนดไว้ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ชำนาญมากยิ่งขึ้น

สำหรับแผนปฏิบัติการพื้นที่เป้าหมายป้องกันและปราบปรามการลักลอบบุกรุกป่า ตามคำสั่งรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานฯจึงกำหนดพื้นที่ปฏิบัติการแต่ละแปลงตามสภาพของปัญหา โดยมีเป้าหมาย 68,344,247 ไร่ สำหรับแผนปฏิบัติการเพื่อบังคับใช้กฎหมาย ต่อพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกปลูกยางพารา ตามนโยบายของรัฐบาล กรมอุทยานฯมีเป้าหมาย 200,000 ไร่ เน้นพื้นที่นอกแปลงพิสูจน์สิทธิ์การครอบครองที่ดิน ตามมติครม.เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2541 และต้องไม่มีพื้นที่ทับซ้อนกับเอกสารสิทธิ์อื่นๆ โดยให้ดำเนินการในแปลงที่เป็นของนายทุน หรือผู้มีอิทธิพลเป็นอันดับแรก เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนผู้ยากไร้ ตามนโยบายคสช. โดยก่อนเข้าดำเนินการให้เจ้าหน้าที่สร้างความเข้าใจกับผู้ใหญ่บ้าน และผู้ครอบครองที่ดินปลูกยางพาราให้ทราบถึงนโยบายของรัฐบาล จนแน่ใจว่าไม่มีการต่อต้าน และแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านเข้าร่วมเป็นสักขีพยานทุกครั้ง

รอบอธิบดีกรมอุทยานฯกล่าวต่อว่า สำหรับการจัดการป่าเสื่อมโทรมในพื้นที่สูง มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูป่าต้นน้ำที่เสื่อมสภาพบนพื้นที่สูงชันในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคเหนือ และ 1 จังหวัดภาคอีสาน ไม่น้อยกว่า 8.3 ล้านไร่ พร้อมกับพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชาวไทยบนพื้นที่สูงควบคู่กันไปด้วย

กดถูกใจหน้าเพจ ThaiPBSNews
https://www.facebook.com/ThaiPBSNews?ref=hl


ข่าวที่เกี่ยวข้อง