ผอ.เขตดุสิตมั่นใจเอกชนยอมให้สร้างคันกั้นน้ำถาวร

ผู้อำนวยการเขตดุสิตมั่นใจเอกชนยอมให้กรุงเทพมหานครใช้พื้นที่สร้างคันกั้นน้ำถาวรกว่า 200 เมตร หลังเหตุการณ์คันกั้นน้ำชั่วคราวพังถึง 3 ครั้งในพื้นที่ซอยสามเสน 21 , 23 และบริเวณรั้วโรงเรียนราชินีบน ส่งผลให้เกิดผลกระทบน้ำท่วมเป็นวงกว้าง ขณะที่สถานการณ์น้ำทะเลที่หนุนสูง ส่งผลให้น้ำเจ้าพระยาทะลักคันกั้นน้ำ และท่อระบายน้ำเอ่อเข้าท่วมกรมชลประทาน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ แต่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต

น้ำทะเลที่หนุนสูงในวันนี้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือกรมชลประทาน เขตดุสิต มีระดับต่ำกว่าคันกั้นน้ำของกรุงเทพมหานครเพียง 10 - 20 เซนติเมตร ทำให้มีน้ำจำนวนหนึ่งไหลทะลักใต้คันกั้นน้ำ และท่อระบายน้ำ เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมชลประทานต้องเร่งสูบน้ำลงสู่คลองเก็บเรือกรมชลประทาน ก่อนระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยา

ขณะที่บริเวณซอยสามเสน 21 กลับสู่สภาพปกติแล้ว หลังเจ้าหน้าที่ช่วยกันซ่อมคันกั้นน้ำที่พังลงสำเร็จตั้งแต่เมื่อเย็นวานนี้ เช่นเดียวกับซอยสามเสน 23 ที่แม้จะมีน้ำขังอยู่บางส่วน แต่ถือเป็นเรื่องปกติ โดยเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้านครหลวงได้เข้ามาต่อไฟฟ้าให้ประชาชนได้ใช้แล้ว หลังจากต้องตัดกระแสไฟฟ้าเนื่องจากมีท่วมสูง แต่ประชาชนในพื้นที่ยังไม่ไว้ใจสถานการณ์ถึงแม้จะรับมือน้ำทะเลที่หนุนสูงวันนี้ได้ แต่ยังห่วงว่าน้ำเหนือที่จะไหลมาสมทบอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมได้

ด้าน น.ส.อารีย์ วงศ์นพรัตน์เลิศ ผู้อำนวยการเขตดุสิตเตรียมทบทวนเหตุการณ์คันกั้นน้ำที่พังลงในพื้นที่ใกล้เคียงกันถึง 3 จุด ซึ่งถือว่าทุกจุดเป็นพื้นที่ของเอกชนที่ไม่ยอมให้กรุงเทพมหานครเข้าไปสร้างเขื่อนถาวรที่มีอยู่กว่า 200 เมตร แต่ก็มั่นใจว่าต่อจากนี้จะได้รับความร่วมมือด้วยดีเพราะเมื่อเกิดปัญหาผลกระทบจะส่งผลเป็นวงกว้าง

นอกจากนี้ ยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตดุสิต พร้อมขอความร่วมมือจากทหาร ตำรวจ เข้าประจำในทุกจุดที่เคยเกิดปัญหา เพื่อคอยเฝ้าระวังคันกั้นน้ำไม่ให้พังลงมาอีก และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่