ญี่ปุ่นเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เซนไดหลังจากปิดไป 2 ปี
สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานว่าการเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 1 ของโรงไฟฟ้าในเมืองเซนไดซึ่งดำเนินการโดยบริษัทยูทิลิตี้ คิวชู อิเล็คทริค พาวเวอร์ ซึ่งเริ่มเดินเครื่องเมื่อเวลา 10.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งตรงกับเวลา 08.30 น.ตามเวลาในไทย โดยคาดว่าเตาปฏิกรณ์จะเดินเครื่องได้เต็มศักยภาพในเวลา 23.00 น.ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นและจะผลิตกระแสไฟฟ้าได้ในวันที่ 14 ส.ค.
การเดินเครื่องครั้งนี้ถือเป็นการเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี หลังจากที่รัฐบาลสั่งปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั่วประเทศเมื่อเดือนกันยายนปี 2556 เพื่อตรวจสอบและปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ป้องกันเหตุซ้ำรอยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะไดอิจิที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อปี 2554 จนทำให้สารกัมมันตรังสีรั่วไหลสู่ภายนอก
การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะอยู่ภายใต้กฎระเบียบด้านความปลอดภัยที่ยึดประสบการณ์และการถอดบทเรียนจากความเสียหายของโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะไดอิชิเป็นต้นแบบ
ขณะที่ด้านนอกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ มีประชาชนประมาณ 200 คน รวมตัวประท้วง เนื่องจากไม่เห็นด้วยและหวั่นเกรงความปลอดภัยหากมีการรั่วไหล เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่พึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์เป็นหลักและในช่วงสองปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงประกอบกับเงินเยนอ่อนค่าลงทำให้ญี่ปุ่นต้องเสียงบประมาณมหาศาลในการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ และเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นอยู่ในภาวะถดถอย
ขณะนี้มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายแห่งที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยแล้ว แต่การเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์มักจะถูกต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่ซึ่งนายชูนิชิ ทานากะประธานสำนักควบคุมนิวเคลียร์ระบุว่า หายนะที่เคยเกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะไดอิชิจะไม่เกิดขึ้นอีกจากการดำเนินงานภายใต้กฎระเบียบใหม่ แต่ก็ยอมรับว่าไม่มีอะไรที่จะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อยถ้าหากเกิดวิกฤตขึ้นจริงก็จะสามารถยับยั้งได้ทันก่อนที่เหตุการณ์จะลุกลามเหมือนที่เคยเกิดขึ้นที่เมืองฟูกูชิมะ