ด้านมืดวงการไอดอลญี่ปุ่นกับการผันตัวสู่ธุรกิจหนังผู้ใหญ่
เป็นหนึ่งในเกิร์ลกรุ๊ปทำรายได้สูงสุดของญี่ปุ่นด้วยผลงานครองแชมป์อันดับหนึ่งได้ถึง 27 ซิงเกิล ยังไม่รวมแฟนคลับที่จงรักภักดีทั้งในบ้านเกิดและทั่วเอเชีย ก็พอจะพิสูจน์ชื่อชั้นของ AKB 48 ในฐานะกรุ๊ปไอดอลสาวโด่งดังที่สุดวงหนึ่งแห่งแดนปลาดิบ แต่เบื้องหน้าที่ดูสดใสน่ารัก ยังมีความจริงอีกด้านที่ไม่ได้สวยงาม เพราะระบบการปั้นศิลปินภายในวงไม่ได้มีพื้นที่สำหรับสมาชิกทุกคน ทำให้บางคนจำต้องพลิกเส้นทางอาชีพไปเล่นหนังสำหรับผู้ใหญ่ ด้วยเหตุผลเรื่องค่าตอบแทน และอาจทำให้เป็นที่รู้จักในวงการบันเทิงมากขึ้น แค่หนึ่งตัวอย่างจากอีกหลายวงไอดอลในญี่ปุ่นที่หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และยังมีด้านมืดแอบแฝงซึ่งน้อยคนจะรู้
ด้วยการแข่งขันระหว่างกลุ่มไอดอล และมองว่าเส้นทางในวงการบันเทิงด้านอื่นอาจช่วยให้ประสบความสำเร็จได้มากกว่า ทำให้อดีตไอดอลจำนวนหนึ่งเลือกผันตัวไปเป็นนางแบบนุ่งน้อยห่มน้อย รวมถึงการเป็นนักแสดงในหนังสำหรับผู้ใหญ่ ทั้ง คิโตะ โมโมนะ อดีตสมาชิกวง SKE48 โดยเจ้าตัวให้เหตุผลว่ารู้สึกอิ่มตัวกับสถานะไอดอลมานานถึง 5 ปี เช่นเดียวกับ มิเอโกะ อาราอิ อดีตสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปยุค 90 Giri Giri Girls
โดยมีหนังสือของบรรณาธิการนิตยสารญี่ปุ่น Shohei Sakakura รวมถึงบทความในนิตยสารรายสัปดาห์ Shukan Shincho อ้างว่า เบื้องลึกในแวดวงไอดอลเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้มีอิทธิพล เช่น Yasushi Akimoto ผู้ก่อตั้งและหุ้นส่วนของวงไอดอลชื่อดัง ที่มีความสัมพันธ์เชิงธุรกิจกับกลุ่มยากูซ่าในญี่ปุ่นน่าจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจหญิงค้าบริการ
เพื่อสร้างความตระหนักให้เด็กสาวที่อยากตามฝันเป็นไอดอล Lighthouse องค์กรไม่แสวงหากำไรในญี่ปุ่นได้ตีพิมพ์หนังสือการ์ตูนเรื่อง Blue Heart สะท้อนประเด็นการถูกล่วงเกินทางเพศของเด็กสาวโดยอ้างอิงจากเหตุการณ์จริง ซึ่งหนึ่งในเนื้อหาทั้งหมด 3 ตอน ยังครอบคลุมไปถึงธุรกิจโจชิ โคเซ หรือแปลว่าชุดนักเรียนมัธยม เล่าถึงนักเรียนหญิงที่ถูกล่อลวงไปสู่ธุรกิจบริการทางเพศ เพื่อแลกกับค่าตอบแทนจำนวนมาก ซึ่งกำลังเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญที่ญี่ปุ่นพยายามเร่งแก้ไข