ครม.ยังไม่ชัดเจนเพิ่มเยียวยาพิเศษประชาชนถูกน้ำท่วมหรือไม่
กรณีการให้เงินช่วยเหลือเยียวยาพิเศษเพิ่มกับประชาชนที่ถูกน้ำท่วมขังนานยังไม่มีความชัดเจนว่า จะมีการเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ( 22 พ.ย.) หรือไม่ ขณะที่นายกรัฐมนตรียืนยันถึงการจ่ายเงินเพิ่มให้กับบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลังหลังละ 20,000 บาทและกรณีเครื่องใช้ภายในบ้านเสียหายเพิ่มอีก 10,000 บาท
การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ( 22พ.ย.) คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย หรือ กฟย. ซึ่งมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานจะเสนอ ครม.เห็นชอบหลักการของแผนงานโครงการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 62 จังหวัด ตามกรอบงบประมาณที่แต่ละจังหวัดเสนอมา โดยนายยงยุทธ ยืนยันว่า การเยียวยายังเป็นไปตามหลักเกณฑ์เดิมเหมือนกันทุกจังหวัด ส่วนชุมชนที่อยู่เหนือคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็ก จะมีการอนุมัติเงินช่วยเหลือพิเศษให้แต่ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ แต่ในส่วนพื้นที่ของ กทม.จุดเหนือคันกั้นน้ำที่จะให้เงินพิเศษจะต้องเป็นเงินของ กทม.เอง
นอกจากนี้ ครม.จะพิจารณาอนุมัติงบฉุกเฉินในการใช้จ่ายเงินเฉพาะให้กับ 4 กระทรวงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมโดยตรง คือ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงอุตสาหกรรมกระทรวงละ 100 ล้านบาท ซึ่งงบดังกล่าวสามารถเบิกจ่ายได้ทันทีเพื่อให้เกิดความคล่องตัว
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มาตรการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยได้กำหนดการเยียวยาไว้ 2 ส่วน คือ บ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายทั้งหลังจะได้รับเงิน 20,000 บาท และหากเครื่องใช้ในบ้านได้รับความเสียหายจะได้รับเพิ่มอีก 10,000 บาท นอกจากนี้กรณีที่น้ำท่วมขังเกิน 7 วันจะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท
ซึ่งในกรณีของเงินช่วยเหลือดังกล่าวได้ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เร่งรัดสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชน และเสนอเรื่องเข้ามาเพื่อจะได้ดำเนินการเยียวยาให้ทั้งหมดอย่างทั่วถึง ส่วนรายละเอียดในแต่ละพื้นที่ที่มีความแตกต่างกันออกไปจากหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้นั้น ทางแต่ละเขตจะเสนอเรื่องเข้ามายังรัฐบาลเอง ส่วนข้อเสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้การเยียวยาประชาชนแบบขั้นบันไดนั้น จะขอศึกษาในรายละเอียดก่อน
ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์มีการประชุมเพื่อกำหนดผู้ที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการ ศปภ. เบื้องต้นมีรายงานว่าทางพรรคเตรียม ส.ส. อภิปรายประมาณ 10 คน โดยการอภิปรายจะเน้นในเนื้อหาถึงการล้มเหลวในการบริหารจัดการน้ำ ศปภ. การปล่อยปละละเลยขาดความเอาใจใส่ในการกำหนดแผนการระบายน้ำ และ การปล่อยให้ประตูระบายน้ำฝั่งตะวันตกเสียถึง 14 แห่งซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้น้ำท่วมหนักที่ฝั่งธนบุรี
ขณะที่ประชุมกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ในวันนี้จะมีการแต่งตั้งกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะ เป็นคณะอนุกรรมการตรวจสอบวิกฤติน้ำท่วมทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะการจัดซื้อถุงยังชีพ หรือ อุปกรณ์ต่าง ๆ แต่จะรวมถึงการบริหารจัดการน้ำด้วย โดยกรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คนจะพิจารณารายละเอียด และ เมื่อพบว่า เกี่ยวข้องกับใครจะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง โดยคาดว่า ในสัปดาห์หน้าจะเริ่มเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำได้