โรงเรียนในพัทลุงประกาศหยุดเรียน 3 แห่งหลังถูกน้ำท่วม
โรงเรียนบ้านปรางหมู่ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ประกาศหยุดเรียนอย่างไม่มีกำหนด เพื่อความปลอดภัยหลังระดับน้ำที่ท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร บริเวณรอบๆโรงเรียน นอกเหนือจากโรงเรียนที่ประกาศไปแล้ว 2 แห่งคือ โรงเรียนวัดปากสระ อำเภอเมืองพัทลุง และ โรงเรียนวัดพังดาน อำเภอควนขนุน ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมได้ขยายวงกว้างไปแล้วทั้ง 11 อำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่ราบลุ่มใน 5 อำเภอติดกับทะเลสาบสงขลา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง
ส่วนชาวบ้านที่อยู่ติดแม่น้ำโกลก อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส เร่งเก็บข้าวของที่จำเป็นไปอยู่กับญาติ หลังน้ำในแม่น้ำโกลกมีปริมาณสูงขึ้น เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนริมคลองสูง 30-50 เซนติเมตร ชาวบ้าน 10 ชุมชนกว่า 500 คน ได้รับความเดือดร้อน เช่นเดียวกับชาวบ้านบ้านทอน ตำบลโคกเคียน ที่เริ่มหันมาใช้เรือสัญจรในหมู่บ้าน หลังน้ำที่ไหลเข้าท่วมมีระดับสูงเกือบ 1 เมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เตรียมรถบรรทุก 6 ล้อ ไว้เพื่ออพยพประชาชนทั้ง 13 อำเภอ หากสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต
ทั้งนี้ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักยังทำให้พื้นที่ในอำเภอบันนังสตา อำเภอรามัน และอำเภอเมืองยะลา ถูกน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ ประชาชนหลายร้อยครอบครัวได้รับความเดือดร้อน บางส่วนอพยพไปอยู่ที่โรงเรียนใกล้หมู่บ้าน ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คนคือ นายมะยีดิง สาและมิง ชาวตำบลลำพะยา อำเภอเมืองยะลา เนื่องจากถูกกระแสน้ำซัดจมเสียชีวิต ส่วนที่อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา หลังฝนตกหนัก และ มีลมกรรโชกแรง ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ ล้มทับบ้านเรือนประชาชนใน 2 หมู่บ้านคือบ้านห้วยลาดและบ้านฉลุง ตำบลฉลุงเสียหาย 5 หลัง แต่ไม่มีใครเป็นอันตราย
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่าช่วงระหว่างวันที่ 23 -25 พฤศจิกายนนี้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ส่งผลให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มริมน้ำ บริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีกำลังแรงคลื่นสูง 2- 4 เมตร ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง รวมทั้งประชาชนที่อยู่ตามแนวชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ให้ระวังอันตรายจากคลื่นสูงที่ซัดเข้าหาฝั่งในระยะนี้ด้วย