อุตุฯเตือนภาคใต้ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ฯลงไป ระวังน้ำป่า-น้ำท่วมฉับพลัน
นักเรียนโรงเรียนราษฎร์ประดิษฐ์ตำบลม่วงสองต้น อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ต่างเดินลุยน้ำกลับบ้าน หลังโรงเรียนประกาศหยุดเรียนชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนด จากฝนที่ตกลงมาตลอด 3 วันทำให้น้ำไหลเข้าท่วมโรงเรียนสูงประมาณ 70 เซนติเมตร เช่นเดียวกับในพื้นที่ลุ่มของอำเภอพระพรหม อำเภอพรมคีรี และอำเภอท่าศาลา ได้ถูกน้ำท่วมแล้วเช่นกัน โดยถนนหลายสายถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ หลายครอบครัวต้องเร่งเก็บทรัพย์สินขึ้นที่สูง รวมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ริมฝั่งคลอง
ส่วนที่โรงเรียนบ้านปรางหมู่โรงเรียนวัดปากสระ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง และ โรงเรียนพังดาน อำเภอควนขุน ทางโรงเรียนได้หยุดสอนหนังสือมาแล้ว 2 วัน หลังถูกน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด และ น้ำฝนที่ตกอย่างหนัก ไหลเข้าท่วม ระดับน้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร คาดว่าต้นสัปดาห์หน้าหากสถานการณ์คลี่คลายโรงเรียนจะเปิดการเรียนการสอนตามปกติ ส่วนสถานการณ์น้ำที่ท่วมในพื้นที่จังหวัดพัทลุงขณะนี้ยังครอบคลุมทั้ง 11 อำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มที่ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับชาวบ้านที่มีบ้านเรือนติดริมแม่น้ำโกลกอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส เริ่มเก็บของใช้จำเป็นไปอาศัยอยู่กับญาติพี่น้องชั่วคราว หลังระดับน้ำในแม่น้ำโกลก ที่เพิ่มสูงขึ้นเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน แต่ยังคงมีชาวบ้านบางส่วนยังไม่ยอมอพยพ โดยรอดูท่าทีสถานการณ์น้ำอีกครั้ง หากมีแนวโน้มระดับน้ำสูงมากกว่านี้จึงค่อยตัดสินใจอพยพ
ด้านเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโตนงาช้างเทือกเขาบรรทัด ขณะนี้ยังไม่ตัดสินใจสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวของน้ำตกที่อยู่ในความดูแลรวม 4 แห่ง คือน้ำตกโตนงาช้าง น้ำตกโตนปลิว น้ำตกบริพัตร และ น้ำตกปาหนัน แม้ว่าขณะนี้ในจังหวัดสงขลาจะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ ระบุว่า จากการวัดปริมาณน้ำฝนที่ตกอยู่บนเทือกเขาบรรทัดตลอด 24 ชั่วโมง ขณะนี้มีปริมาณน้ำฝนอยู่ที่ 50 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่ายังปกติ แต่หากปริมาณฝนที่ตกเกิน 100 มิลลิเมตรจะประสานผู้เกี่ยวข้องปิดน้ำตกทันที
ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกเตือนประชาชนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถึง จังหวัดนราธิวาส ให้ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลในพื้นที่ภาคใต้ จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่ปกคลุมภาคใต้มีกำลังแรง ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป จะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยตามแนวชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ต้องระวังอันตรายจากคลื่นสูงที่ซัดเข้าหาฝั่งในระยะนี้