ผู้ว่าฯ กทม.ลั่นไม่เปิดประตูคลองพระยาสุเรนทร์ 1.50 เมตร
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมขังภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำและแนวทางการระบายน้ำจาก รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งพื้นที่ 846 ไร่ของมหาวิทยาลัยถูกน้ำท่วมขังเต็มพื้นที่ และขณะนี้พบว่ายังมีมวลน้ำที่หลงเหลือในพื้นที่อีก 80,000 ลูกบาศก์เมตร โดยมหาวิทยาลัยได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากกรุงเทพมหานครจำนวน 5 เครื่อง รวมกับของมหาวิทยาลัยอีก 7 เครื่อง ในการเร่งระบายน้ำลงสู่คลองบางเขน ทั้งนี้ เชื่อว่า หากไม่มีน้ำใหม่เข้ามาเติม พื้นที่ถนนภายในมหาวิทยาลัยจะแห้งภายในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ย.) และในอนาคต มหาวิทยาลัยเตรียมนำงบประมาณจากรายได้ของมหาวิทยาลัยมาสร้างรั้วเป็นแนวยาวประมาณ 12 กิโลเมตร บริเวณริมคลองบางเขน เพื่อเป็นแนวป้องกันน้ำท่วม
ภายหลังลงพื้นที่ดูสถานการณ์น้ำภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยังได้ลงเรือสำรวจการระบายน้ำคลองเปรมประชากร ซึ่งขณะนี้ การระบายน้ำถือว่ามีศักยภาพมากขึ้น หลังกรุงเทพมหานครดำเนินการเก็บขยะ หรือสิ่งปฏิกูล ซึ่งกีดขวางทางน้ำไหลออกไปแล้ว
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครระบุว่า ภาพรวมสถานการณ์น้ำดีขึ้นตามลำดับ แม้หลายพื้นที่จะยังคงมีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะตามชุมชนและหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งกรุงเทพมหานครจะทยอยนำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้ง เพื่อเร่งระบายน้ำ บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ขณะที่การเปิดประตูระบายน้ำจำนวน 3 แห่งริมคลองมหาสวัสดิ์ ได้แก่ ประตูระบายน้ำคลองควาย ประตูระบายน้ำคลองซอย และประตูระบายน้ำขุนศรีบุรีรักษ์ จะยังคงไว้ที่ระดับ 1 เมตร เนื่องจากเป็นระดับที่เหมาะสม และยังไม่ส่งผลกระทบกับพื้นที่ พร้อมขอบคุณกรมชลประทานที่ช่วยเปิดประตูระบายน้ำฉิมพลี ซึ่งช่วยระบายน้ำลงคลองบางกอกน้อย ขณะเดียวกัน ยืนยันว่า จะเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ ช่วงวัดหนองใหญ่ ที่ระดับ 1 เมตร เพราะหากเปิดประตูระบายน้ำมากไปกว่านี้ อาจทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มเติมเข้ามาอีก และจะซ้ำเติมพื้นที่ถนนสายไหมและถนนสุขาภิบาล 5