ตร.คุม 3 อุยเกอร์หาข้อมูลระเบิดราชประสงค์ ไม่ยันก่อการร้าย-หมายจับเสื้อฟ้าตั้ง 3 ข้อหา
วันนี้ (28 ส.ค.2558) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตำรวจคุมตัวชาวอุยเกอร์ที่จ.สระแก้ว จำนวน 3 คน ไว้สอบสวน เพราะต้องการข้อมูลข้อเท็จจริงจากทุกกลุ่ม และข่าวสารจากทุกมิติ เพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อการสอบสวนมากที่สุด ในคดีระเบิดแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร โดยยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง จึงขอความร่วมมือการนำเสนอข่าว เพราะการเผยแพร่ข้อมูลบางเรื่องอาจจะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยตำรวจจะยังไม่ระบุว่า เป็นเรื่องการก่อการร้ายข้ามชาติ หรือว่าเป็นกลุ่มใดที่ก่อเหตุ เพราะยังไม่มีพยานชัดเจนในการระบุชี้ชัดไปในขณะนี้ แต่วิเคราะห์ได้ในอีกมุมมองหนึ่ง คือ การก่อเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ เพราะเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญในกรุงเทพมหานคร และถือเป็นจุดที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นอย่างมาก ส่วนใครจะได้ประโยชน์จากการก่อเหตุครั้งนี้ คงเป็นเรื่องของการสืบสวน และการสืบสวนทั้งสองคดี ตำรวจทำทุกอย่างมากกว่าที่เผยแพร่ออกผ่านสื่อมวลชน
ส่วนการออกหมายจับชายต้องสงสัยเสื้อสีฟ้าในภาพวงจรปิด คดีระเบิดท่าเรือสาทร ตำรวจมีพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล ภาพจากกล้องวงจรปิดและหลักฐานอื่นๆ ซึ่งการที่ศาลออกหมายจับให้นั้น ทำให้มั่นใจได้ว่า คดีนี้มีพยานหลักฐานที่สมบูรณ์ และการออกหมายจับโดยที่ยังไม่ทราบชื่อและสัญชาติ ไม่เป็นอุปสรรคต่อการสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างแน่นอน และนอกเหนือจากการออกหมายจับผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนไปแล้ว ยังมีผู้ร่วมก่อเหตุอีกหลายคน โดยลงมือกันเป็นขบวนการ แต่หลักฐานขณะนี้ มีที่ชัดเจนอยู่ 2 คนตามที่ศาลออกหมายจับได้
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวด้วยว่า จะไม่อนุญาตให้ทุกกลุ่มที่จะมาจัดกิจกรรมรำลึก หรือกิจกรรมทางศาสนา ที่บริเวณแยกราชประสงค์ เพราะการรวมตัวของกลุ่มคนจำนวนมาก ทำให้ยากต่อการดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมา มหาเถรสมาคม เคยทำหนังสือขออนุญาตจัดกิจกรรมสวดมนต์ เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต แต่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ไม่อนุญาต ซึ่งทางมหาเถรสมาคมก็เข้าใจ และปฏิบัติตาม จึงจะใช้มาตรฐานเดียวกันกับทุกกลุ่มที่มาขออนุญาตใช้พื้นที่
ขณะที่พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายจับชายต้องสงสัยก่อเหตุระเบิดบริเวณท่าเรือสาทร ลักษณะเป็นชายรูปร่างสันทัด อายุประมาณ 25 ถึง 30 ปี สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ในข้อหา ครอบครองวัตถุระเบิด ทำให้เกิดระเบิด และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยเป็นการออกหมายจับตามภาพจากกล้องวงจรปิด และน่าเชื่อว่า ชายตามภาพมีการทิ้งถุงระเบิดลงในน้ำ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า หากมีการหน่วงเวลาระเบิดและใช้วัตถุกันน้ำ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเพิ่มความคมชัดของภาพจากกล้องวงจรปิด และยืนยันว่า มาคนเดียว แต่น่าจะมีผู้ร่วมขบวนการอีก โดยแบ่งหน้าที่กันทำ
ติดตามข่าวสารผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ไทยพีบีเอสออนไลน์
https://www.facebook.com/ThaiPBSNews?ref=hl
