มองมุมหนัง : ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จภาพยนตร์
"สำหรับหนังไทยเรามีต้นทุนในการทำหนังน้อยมากเมื่อเทียบกับหนังฝรั่ง บทจึงเป็นการลงทุนเดียวที่จะคุ้มค่าที่สุดในการทำงาน" วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ สคริปต์ ซูเปอร์ไวเซอร์ ค่ายหนังจีทีเอช
เพราะบทภาพยนตร์เปรียบเป็นกระดูกสันหลังของหนังที่จะชี้ถึงความสำเร็จ ทำให้ทั้งจิระ มะลิกุล และ วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ สคริปต์ ซูเปอร์ไวเซอร์ ผู้ตรวจสอบและชี้ขาดว่าบทภาพยนตร์แบบใดเหมาะแก่การทำหนัง ต้องใช้เวลาไม่น้อยในการคัดเลือก นอกจากบทหนังที่ดียังต้องมองถึงความคุ้มค่าการลงทุน บทภาพยนตร์หนึ่งเรื่องจึงต้องใช้เวลาคิดไอเดียและเขียนให้มากที่สุด เช่นหนังพันล้าน "พี่มากพระโขนง" ทำบทนานถึง 1 ปี 6 เดือน หรือ "รถไฟฟ้า มาหานะเธอ" ที่สร้างสรรค์บทยาวนานที่สุดถึง 4 ปี รวมถึงเรื่องล่าสุด "ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ" ของ นวพล ธำรงค์รัตนฤทธิ์ ที่จิระและวรรณฤดีต้องใช้เวลาร่วม 2 ปีเพื่อแก้ไขบทหนังจนเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเดิมทีบทภาพยนตร์ดราฟแรกของเรื่องนี้มีความยาวถึง 127 หน้า แต่ต้องถูกปรับเปลี่ยนแก้ไขถึง 4 ครั้ง ถึงจะออกมาเป็นบทที่ใช้ถ่ายทำจริงได้
วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ สคริปต์ ซูเปอร์ไวเซอร์ กล่าวว่าการถ่ายทำแต่ละวันที่ไปออกกองจะมีค่าใช้จ่ายรายวันที่สูงมาก เพราะฉะนั้นการถ่ายทำต้องกระชับ แม่นยำ และไม่เปลี่ยนแปลง เราจึงต้องทำบทจนแน่ใจว่ามันดีที่สุดแล้ว
จิระ มะลิกุล "คือเราจะทำจนรู้สึกว่าทำมันดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว เราทำมันจนหมดแล้ว มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ได้ว่าอะไรจะดี อะไรไม่ดี เรื่องไหนดีกว่าเรื่องไหน แต่มันจะเหมือนกับทำโดยความสามารถเราทำได้แค่นี้จริงๆ"
แม้รายได้อาจเสมอตัว แต่คุณภาพบทก็ส่งให้ "ตุ๊กแกรักแป้งมาก" ถูกใจนักวิจารณ์คว้ารางวัลใหญ่จากชมรมวิจารณ์บันเทิงมาแล้ว หนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังบทหนังเรื่องนี้คือ ชิชา อมาตยกุล นักแสดงวัย 22 ปี ซึ่งผันตัวมาเป็น Script Doctor ทำหน้าที่ตรวจแก้ไขบท รวมถึงประเมินความเสี่ยงหนังตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนออกฉาย สูตรสำเร็จที่ยึดถือคือจังหวะการขมวดปมเรื่องของเบรก สไนเดอร์ (Blake Snyder) Script Doctor ชื่อดังจากต่างประเทศ
"จริงๆแล้วบทหนังเนี่ยมันมีสูตรนะ ไม่ใช่ที่คิดขึ้นมาเองแต่เป็นสูตรสมการที่ใครก็ใช้กันเลย เราเชื่อว่าบทที่ทุกคนเขียนส่วนใหญ่มันจะไปลงสูตรนี้ ไม่ว่าหนังรัก ผี แอ็คชั่นก็เป็นสูตรประมาณเดียวกัน" ชิชา กล่าว
คาดการณ์ว่าปลายปีนี้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยจะกลับมาคึกคักมากขึ้น เพราะสตูดิโอใหญ่หลายแห่งทยอยส่งหนังออกฉาย เช่น แม่เบี้ย มอญซ่อนผี เมย์ไหน ไฟแรงเฟร่อ อาบัติ และพันท้ายนรสิงห์ หลังจากต้นปีต้องหลีกทางให้หนังบล็อกบัสเตอร์ แม้ผู้สร้างจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ภาพยนตร์ออกมาโดนใจและเข้าถึงเป้าหมายมากที่สุด แต่สิ่งสำคัญที่คนทำหนังยังหวังคือแรงสนับสนุนจากคนดูที่ปัจจุบันอาจมีทางเลือกในการชมมากขึ้น