ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้สั่งจำคุก "สนธิ" 1 ปี ให้รอลงอาญา

อาชญากรรม
29 พ.ย. 54
06:46
14
Logo Thai PBS
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้สั่งจำคุก "สนธิ" 1 ปี ให้รอลงอาญา

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ศาลชั้นต้นให้จำคุกนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา ในคดีที่ปราศัยหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2549

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางมาศาลอาญา รัชดา เพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ทนายเป็นโจกท์ยื่นฟ้อง นายสนธิ และ นายขุนทอง ลอเสรีวานิช บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. คดีนี้โจกท์ฟ้องสรุปว่า จำเลยที่ 1 กล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ท้องสนามหลวง เมื่อปี 2549 กล่าวหาโจกท์ทำนองว่า เป็นนายกรัฐมนตรีที่ใช้เงินซื้อประชาชนให้รักตัวเอง เป็นพวกหมกมุ่นเรื่องไสยศาสตร์ และ โจกท์ยังเคยจัดทีมเพื่อไล่ล่าสังหารจำเลย กล่าวหาจำเลย อันเป็นการใส่ความโจกท์ต่อบุคคลที่ 3 ด้วยการโฆษณา โดยมีเจตนาให้โจกท์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นและถูกเกลียดชัง และเพื่อจูงใจให้ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้ง งดเว้นการลงคะแนนเสียงให้โจกท์ แล ะพรรคไทยรักไทย ขณะที่ จำเลยที่ 2 นำคำปราศรัยจำเลยที่ 1 ลงตีพิมพ์เผยแพร่

ทั้งนี้ศาลอุทธรณ์ ประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 ผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 ตามคำฟ้องของโจกท์จริง แต่จำเลยที่ 1 ไม่เคยกระทำความผิดร้ายแรงอีกทั้งไม่เคยต้องโทษคำพิพากษาถึงที่สุด จึงสมควรให้จำเลยที่ 1 แก้ไขปรับปรุงตัว ศาลอุทธรณ์ จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น จำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และให้จำเลยที่ 1 ร่วมตีพิมพ์โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน โดยให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ส่วนจำเลยที่ 1 ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง เนื่องจาก เห็นว่า ไม่ได้ทำผิดตามคำฟ้องของโจกย์จริง

สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2550 ให้จำคุก นายสนธิ จำเลยที่ 1 รวม 3 กระทง กระทงละ 1 รวมโทษจำคุก 3 ปี และให้จำคุกจำเลยที่ 2 ปี ปรับ 40,000 บาท และให้จำเลยทั้งสองร่วมตีพิมพ์โฆษณาคำพิพากษาลงในหนังสือพิมพ์รายวัน รวม 7 ฉบับ เป็นเวลาติดต่อกัน 7 วัน

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง