ผู้ว่าฯกทม.ให้ ศปภ.ลดบานปตร.คลองพระยาสุเรนทร์
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยืนยันไม่เจรจากับกลุ่มชาวบ้านที่มายึดทรัพย์สินของราชการและเปิดบานประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์โดยพละการ จึงเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ แกนนำชาวบ้าน ซึ่งมีตำแหน่งในสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และย้่ำว่าการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำเป็นอำนาจหน้าที่ของ กทม. ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี โดยต้องผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ และเหมาะสมกับสถานการณ์ และที่ผ่านมาก็ประสานงานกับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผอ.ศปภ.และมีเห็นตรงกันมาโดยตลอด
พร้อมกันนี้ยืนยันว่าจะต้องลดระดับบานประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ลงเหลือ 1 เมตร เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับพื้นที่เขตสายไหมและถนนสุขาภิบาล 5 เพราะหลังจากเปิดประตูระบายน้ำที่ 1.50 เมตร ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นถึง 10 เซนติเมตร โดยเป็นหน้าที่ของ ศปภ.ที่จะเข้าไปดำเนินการในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครไม่คิดว่าจะมีผู้อยู่เบื้องหลังหรือสั่งการให้มีการกระทำดังกล่าวขึ้น และมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่ข้อขัดแย้งระหว่าง ศปภ.กับ กทม. แต่เป็นความขัดแย้งเฉพาะบุคคลเท่านั้น ทั้งนี้ไม่อยากให้ใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย พร้อมกันขอร้องชาวปทุมธานีให้เข้าใจและใช้หลักเหตุผลในการแก้ไขปัญหา
สำหรับข้อเสนอของนักวิชาการที่เสนอให้ กทม. เปิดบานประตูระบายน้ำเพิ่มขึ้นทั้ง 3 แห่ง คือ ประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ ประตูระบายน้ำคลองหกวาสายล่าง และประตูระบายน้ำคลองสอง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยืนยันระดับที่เปิดในปัจจุบันเหมาะสมแล้ว และจะไม่เปิดกว้างไปกว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ส่วนข้อเสนอเพื่อลดความเดือดร้อนของทั้งชาวสายไหมและชาวลำลูกกาด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มทั้งประตูระบายน้ำคลองหกวาสายล่างและประตูระบายน้ำคลองสองนั้นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามนี้