กทม.ยืนยันเปิดประตูคลองพระยาสุเรนทร์ 1.30ม.
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้อำนวยการ ศปภ. เดินทางไปตรวจดูระดับน้ำที่บริเวณคลองพระยาสุเรนทร์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากที่เมื่อคืนนี้ พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ แกนนำชาวอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ได้ลดระดับบานประตูระบายน้ำลงจาก 1.50 เมตร เป็น 95 เซนติเมตร โดย พล.ต.อ.ประชาบอกว่าจากการโทรศัพท์พูดคุยกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บอกว่าต้องการเปิดบานประตูระบายน้ำแบบขั้นบันได ซึ่งจะต้องพิจารณาผลกระทบที่เกิดขึ้นด้วย และต้องเห็นใจประชาชนทั้งสองฝั่งที่ได้รับผลกระทบเหมือนกัน แต่ยืนยันว่าน้ำต้องมีที่ไปและไหลลงสู่ทะเล ซึ่งอำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยืนยันเปิดบานประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ ที่ 1.30 เมตร พร้อมขอให้ทุกฝ่ายเคารพการตัดสินใจของ กทม.และคิดว่าเรื่องนี้ควรจะจบได้แล้ว รวมทั้งควรหันหน้าเข้าหากันเพื่อให้เกิดความสร้างสรรค์และเพื่อประโยชน์ของประชาชนจะดีกว่า นอกจากนี้ยังเปิดประตูระบายน้ำเพิ่มอีก 3 แห่ง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ได้แก่ ประตูระบายน้ำคลองสามวาจาก 80 เซนติเมตร เป็น 90 เซนติเมตร เพื่อช่วยระบายน้ำจากพื้นที่ลำลูกกา และคลองหกวาสายล่างลงสู่คลองแสนแสบ เข้าสู่ระบบระบายน้ำของอุโมงค์ยักษ์พระรามเก้า สถานีสูบน้ำพระโขนง ประตูระบายน้ำลำบึงขวาง และประตูระบายน้ำลาดกระบัง เพิ่มขึ้นจาก 1 เมตร เป็น 1.20 เมตร เพื่อช่วยระบายน้ำจากลำลูกกา คลองหกวาสายล่าง ช่วงคลอง 7-12 ลงสู่คลองประเวศบุรีรมย์ ออกอุโมงค์ยักษ์พระราม 9 สถานีสูบน้ำพระโขง
ขณะที่ชาวอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ต้องการให้ ศปภ.และกทม.เปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ จากระดับ 1.30 เมตร เป็น 1.50 เมตร และต้องการให้ ศปภ.ทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับตัวแทนลำลูกกาเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่าน ที่ให้เปิดประตูระบายน้ำ 1.50 เมตร ขณะที่ผ่านมา 5 วันแล้วได้มีการเปิดและลดบานประตูระบายน้ำทุกวัน ทำให้น้ำท่วมขังนานกว่าเดิม ซึ่งหากเปิดประตูระบายน้ำตามข้อเรียกร้อง จะทำให้ระดับน้ำในพื้นที่ลดลงได้วันละ 5-8 เซนติเมตร และยืนยันว่าจะเจรจาเรื่องนี้กับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเพียงคนเดียวเท่านั้น
ด้านนายวีระ วงศ์แสงนาค ประธานคณะบริหารจัดการน้ำ ศปภ. บอกว่าเตรียมรื้อแนวคันกระสอบทรายขนาดใหญ่ หรือ บิ๊กแบ็ก หลายจุดในวันพรุ่งนี้ (1ธ.ค.)โดยเฉพาะแนวทางรถไฟตั้งแต่สะพานดำถึงจุดตัดวิภาวดีรังสิต และถนนจันทรุเบกษา ตั้งแต่ถนนพหลโยธินถึงแนวคลองสอง รวมทั้งเขตสายไหมคาดว่าน้ำที่ขังอยู่ในขณะนี้เกิดจากพื้นที่ลุ่มต่ำและท่อระบายอุดตัน ส่วนกรณีพื้นที่แจ้งวัฒนะ 14 หมู่บ้านเมืองทองนิเวศน์ ซึ่งมีข่าวจะมีชาวบ้านออกมาเคลื่อนไหวนั้น เบื้องต้นคืนนี้ กทม.จะทำความสะอาดท่อระบายน้ำแจ้งวัฒนะ ซอย14 เพื่อระดมสูบน้ำลงท่อ
ขณะเดียวกันนายวีระประเมินว่ามีปริมาณน้ำค้างทุ่งฝั่งตะวันตก 2,700 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายออกไปแล้ว 700 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่เหลืออีก 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 20 วันจะระบายน้ำได้หมด ส่วนถนนสายหลักทุกสายในฝั่งนี้จะกลับมาใช้งานได้ปกติในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ แต่ยอมรับว่า มี 7 พื้นที่ที่น่าเป็นห่วง คือ บางบัวทอง บางกรวย เพชรเกษม พุทธมณฑลสาย4-5 ลำลูกกาและคลองหกวาสายล่าง สายไหม ดอนเมืองและตอนเหนือดอนเมือง และ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง