ชีวิตลูกเรือประมงไทย ตอน 5 : ขุดศพลูกเรือประมงพิสูจน์ดีเอ็นเอคนไทย
ทีมข่าวไทยพีบีเอสลงพื้นที่เกาะเบนจินา ประเทศอินโดนีเซีย ร่วมกับเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ของอินโดนีเซียเพื่อขุดศพลูกเรือประมงที่เสียชีวิตเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม เพื่อนำไปตรวจหาเอกลักษณ์บุคคลหรือดีเอ็นเอตามการร้องเรียนของญาติของนายสมเกียรติ สีเมืองโข ที่ต้องการนำศพกลับบ้าน
สุพล แป้นนอก ญาตินายสมเกียรติ สีเมืองโข เผยว่าก่อนเสียชีวิตนายสมเกียรติได้โทรศัพท์บอกญาติว่าถือใบคนประจำเรือหรือซีแมนบุคชื่อไชยา บุญสม ซึ่งไม่ตรงกับบัตรประชาชน ทำให้เกิดปัญหาในการส่งตัวกลับ ขณะเดียวกันในวันที่ทีมข่าวไปลงพื้นที่ได้พบป้ายบนหลุมศพของผู้เสียชีวิตที่ระบุชื่อว่านายไชยา บุญสม ชาวกัมพูชา ซึ่งหลังฟังข้อมูลจากตำรวจในพื้นที่ทำให้ญาติมั่นใจว่าศพที่ปักป้ายชื่อนายไชยา บุญสม ชาวกัมพูชา เป็นบุคคลที่กำลังตามหา โดยก่อนที่จะทำการขุดศพญาติได้ประสานขอพระสงฆ์จากวัดพุทธเมตตา กรุงจาการ์ตา เพื่อทำพิธีขอขมาก่อนเจ้าหน้าที่ขุดศพ
การขุดชิ้นส่วนของศพครั้งนี้ เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ของอินโดเซียจะนำชิ้นส่วนที่สำคัญของผู้เสียชีวิตไปตรวจดีเอ็นเอเพื่อหาเอกลักษณ์บุคคลว่าผู้ตายคือใคร หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะนำดีเอ็นเอไปเทียบกับญาติว่าผู้เสียชีวิตคือนายสมเกียรติ สีเมืองโขหรือไม่ นายจอห์น โฮร์ฮอโร เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ อธิบายปฏิบัติการครั้งนี้ว่าผู้ตายเสียชีวิตมานานกว่า 3 เดือน ทำให้ร่างกายเน่าเปื่อย จึงต้องนำกระดูกสะโพกด้านซ้ายไปสกัดหาดีเอ็นเอ ก่อนนำไปเทียบกับญาติว่าตรงกันหรือไม่ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์
เมื่อ 5 ปีที่แล้วนายสมเกียรติ สีเมืองโข ได้รับการชักชวนจากเพื่อนบ้านให้ไปทำงานเป็นลูกเรือประมง แต่เรืออภิโชค 1 หรือ เรือแอนตาซีนา ของบริษัทปูซาการ์เบนจินารีซอสเซส จำกัด ที่เป็นบริษัทร่วมทุนทำประมงกับบริษัทเอกชนไทยถูกกักในน่านน้ำอินโดนีเซีย เพราะถูกสังสัยว่า ทำประมงไม่เป็นตามข้อตกลงของ IUU เมื่อลูกเรือประมงคนนี้เสียชีวิตญาติต้องเดินทางมาอินโดนีเซียเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ก่อนนำศพหรืออัฐิไปประกอบพิธีทางศาสนาที่จังหวัดสุรินทร์บ้านเกิด
นอกจากหลุมศพนี้แล้ว สุสานแห่งนี้ยังมีป้ายบนหลุมศพที่บ่งบอกว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนไทยอีกกว่า 70 หลุม ซึ่งยังไม่มีการประสานงานจากญาติให้นำศพเหล่านี้กลับบ้าน