นายนัจมุดดิน อูมา อดีตสมาชิกกลุ่มวาดะห์ และอดีต ส.ส.พรรคมาตุภูมิ นำหลักฐานเป็นข้อความพาดพิงในลักษณะการกล่าวโจมตีว่าอยู่เบื้องหลังเหตุลอบวางระเบิดห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล สมุยที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา และหลักฐานภาพถ่ายตั้งแต่ปี 2543 เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอระแงะ จ.นราธิวาส ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและการทำผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แก่ผู้ที่เผยแพร่ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยชี้แจงว่าภาพถ่ายร่วมกับนายมะแซ อุเซ็ง ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีความมั่นคงเป็นภาพถ่ายขณะที่นำคณะของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำศาสนาใน จ.นราธิวาส หลายสิบคนไปดูงานที่ จ.ภูเก็ต เมื่อ 15 ปีก่อนและได้ถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน แต่ภาพนี้ก็มักจะถูกนำมากล่าวโจมตีผ่านสื่อทุกครั้งที่เกิดเหตุรุนแรงเพื่อผูกโยงให้เป็นเรื่องการเมือง ทั้งที่ความจริงแล้วการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองเกือบทุกกลุ่มขณะนี้ก็ถูกจับตามองจากเจ้าหน้าที่ และต้องมีการรายงานให้ทางการทราบเกือบทุกครั้งที่เดินทางไปทำกิจกรรมต่างๆ ข่าวที่เกิดขึ้นจึงสร้างความเสียหายต่อตัวเขาและครอบครัว
ไม่แตกต่างไปจากความเห็นของนายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ อดีต ส.ส.พรรรคประชาธิปัตย์ จ.ยะลา ที่มองว่าการให้น้ำหนักว่ากลุ่มการเมืองอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุลอบวางระเบิด โดยเฉพาะนักการเมืองในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้ประชาชนเริ่มเริ่มมีคำถามถึงอำนาจของรัฐบาลปัจจุบันในการดูแลความเคลื่อนไหวของกลุ่มก้อนการเมืองต่างๆ รวมถึงอำนาจในการป้องกันการขยายพื้นที่ของผู้ก่อเหตุ
ด้านนายตายูดิน อุสะมาน นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยราชภัฎยะลาเห็นว่า เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความรอบคอบในการสอบสวนเพราะหลายครั้งที่เกิดเหตุความรุนแรงมักจะมีการเชิญตัวหรือควบคุมตัวผู้ที่เกี่ยวข้องไปสอบสวน แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมกลับพบว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอ จึงส่งผลเสียต่อบรรยากาศการสร้างความสมานฉันท์ในพื้นที่ โดยเฉพาะคดีลอบวางระเบิดที่เกาะสมุยซึ่งจะต้องกระทำอย่างรอบคอบเพื่อให้กระทบต่อความเชื่อมั่นน้อยที่สุด