ผู้ค้า-ประชาชนลงทะเบียนจองสลากฯวันแรกคึกคัก
วันนี้ (15 ก.ย. 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทะเบียนเพื่อขอสิทธิ์จองสลากกินแบ่งรัฐบาลล่วงหน้าวันแรกที่ธนาคารกรุงไทย จ.นครราชสีมา เป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะสาขาถนนมิตรภาพประชาชนนำเอกสารหลักฐาน พร้อมสมุดบัญชีธนาคารมายื่นลงทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าวันนี้จะมีผู้มาลงทะเบียนกว่า 4,000 คน เช่นเดียวกับที่ธนาคารกรุงไทยสาขาบุรีรัมย์ มีประชาชนทั่วไปและผู้พิการ ทั้งที่เคยขายสลากฯและรายใหม่ ต่างมาลงทะเบียนตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนใหญ่ เลือกสั่งจองขั้นต่ำจำนวน 5 เล่ม เพราะต้องการทดลองขายก่อน
ส่วนที่ จ.เชียงราย ผู้ค้าบางคน ระบุว่า แม้จะได้สลากฯในราคาต่ำกว่าที่เคยรับซื้อมาจากคนกลาง แต่ยังกังวลว่าจะมีกลุ่มทุนเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ โดยส่งคนแอบแฝง มาเป็นผู้ค้ารายย่อยเพื่อจองสลากจำนวนมาก จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ เช่นเดียวกับที่จ.พะเยา และจ.เชียงใหม่ มีผู้มาลงทะเบียนกันอย่างคึกคัก บางคนต้องการให้ภาครัฐรับลงทะเบียนเฉพาะผู้ค้าสลากฯตัวจริง เพื่อไม่ให้มีผู้อาศัยช่องโหว่เข้ามาแย่งจองซื้อสลากฯจากผู้ค้ารายย่อย ขณะที่จ.น่าน บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ผู้ค้าบางคนระบุว่า สาเหตุที่มีคนจองน้อย เนื่องจากเกรงขายสลากได้น้อยลง เพราะมีจำนวนผู้ค้ามากขึ้น แต่ผู้ซื้อยังคงเท่าเดิมส่วนที่จ.สมุทรสงคราม จ. สุพรรณบุรี จ.อ่างทอง ตลอดทั้งวันมีผู้ค้าสลากฯและประชาชน มาลงทะเบียนที่ธนาคารกรุงไทย กันอย่างคึกคัก ต่างจากที่อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว มีผู้มาลงทะเบียนบางตา เจ้าหน้าที่คาดว่า อาจเป็นเพราะเพิ่งเริ่มเปิดจองเป็นวันแรก
นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ได้รับรายงานผู้ลงทะบียนทั่วประเทศ กว่า 10,500 คน หลังเปิดทำการเพียง 30 นาที จนระบบการลงทะเบียนผ่านอินเตอร์เน็ตล่มหลายครั้งพร้อมระบุว่า การสั่งซื้อหรือจองสลากฯต้องเสียค่าธรรมเนียมครั้งละ 10 บาท หากไม่ได้รับการจัดสรรธนาคารจะโอนเงินค่าสลากฯและค่าธรรมเนียมคืน ส่วนความคืบหน้าการปล่อยสินเชื่อให้ผู้ค้าสลากฯ ยังอยู่ระหว่างสรุปรายละเอียด แต่เบื้องต้นอาจปล่อยกู้รายละไม่เกิน 300,000 บาท
ขณะที่พ.ท.หนุน ศันสนาคม ประธานอนุกรรมการจัดสรรสลากฯ คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุว่า ขอเวลาประเมินการลงทะเบียนยอดการสั่งซื้อหรือจองสลากฯ 2 เดือน เพื่อกลั่นกรองผู้ค้าสลากตัวจริง ประกอบกับ ปริมาณความต้องการซื้อและขายจริงในตลาด ก่อนพิจารณาว่าสมควรยกเลิกระบบโควต้าหรือไม่