นักวิชาการเสนอรัฐเร่งสร้างความมั่นใจนักลงทุนป้องกันย้ายฐานผลิต

นักวิชาการด้านแรงงานเสนอรัฐบาลเร่งสร้างความมั่นใจในระบบบริหารจัดการน้ำให้กับนักลงทุนและแรงงาน เพื่อป้องกันการย้ายฐานการผลิต พร้อมเร่งสร้างระบบเศรษฐกิจแบบพึ่งพาตนเอง ในการป้องกันปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจและภัยพิบัติระยะยาว

คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย องค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ไอแอลโอ และมูลนิธิฟรีดริค เอแบร์ท จัดการสัมมนาเรื่องแรงงานในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมหลังภัยพิบัติน้ำท่วม ซึ่งผู้อำนวยการมูลนิธิฟรีดริค เอแบร์ท ได้นำเสนอโมเดลฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจและภัยพิบัติ ของประเทศเยอรมัน ที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว โดยให้สถานประกอบการลดชั่วโมงการทำงานลง และให้รัฐเข้าไปสนับสนุนรายได้ของแรงงานในส่วนที่ลดลง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนของสถานประกอบการ แต่คนงานยังคงมีรายได้เท่าเดิมและช่วยลดปัญหาการเลิกจ้างได้

ด้านนายศักดินา ฉัตรกุล ณ อยุธยา นักวิชาการด้านแรงงาน เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนเพื่อไม่ให้ย้ายฐานการผลิต โดยมาตรการระยะสั้น คือสร้างความมั่นใจในระบบบริหารจัดการน้ำ สร้างความเชื่อมั่นให้กับคนงาน และเข้าไปดูแลความเดือดร้อนของคนงานในแต่ละกลุ่ม ส่วนมาตรการระยะยาวคือการสร้างระบบเศรษฐกิจแบบพึ่งพาตนเอง เน้นการบริโภคภายในประเทศ เร่งส่งเสริมให้คนงานมีกำลังซื้อมากขึ้น ด้วยการขึ้นค่าแรง และส่งเสริมการรวมกลุ่ม การต่อรองกับนายจ้าง รวมถึงการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เพราะในปัจจุบันประเทศไทยยังคงพึ่งพาการส่งออกเป็นส่วนใหญ่

 สำหรับตัวเลขความเสียจากมหาอุทกภัยในครั้งนี้มีสถานประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบ จำนวน 838 แห่ง มูลค่าความเสียหาย 2.3 แสนล้านบาท ส่วนสถานประกอบการนอกนิคมอีก 1,900 แห่ง มูลค่าความเสียหาย 2.4 แสนล้านบาท ขณะที่ข้อมูลของกระทรวงแรงงาน ล่าสุด พบว่ามีคนงานจำนวน 17,640 คน จากสถานประกอบการ 48 แห่งถูกเลิกจ้าง