หลายฝ่ายเตือนระวังถูกล่อลวงผ่านเฟสบุ๊ค
เว็บไซต์เฟสบุ๊ค ที่กำลังได้รับความนิยมโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นสำหรับใช้ติดต่อสื่อสารใน กลุ่มเพื่อนแต่กลับถูกผู้ต้องหาบางรายใช้เป็นเครื่องมือในการล่อลวงเด็กหญิง ในจังหวัดนครราชสีมาที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีไปกระทำชำเรา ขณะที่นักสังคมแจ้งเตือนวัยรุ่นควรใช้วิจารณญาณส่วนผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ บุตรหลานที่เริ่มเรียนรู้ผ่านทางโลกออนไลน์
จากกรณีเว็บไซต์เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อ นักรบแดนใต้ และแดน สีดา ที่ นายวิมล สีดา ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารกับหญิงสาวและล่อลวงไปกระทำชำเรา เป็นหลักฐานสำคัญที่ตำรวจภูธรนครราชสีมา ใช้ในการแกะรอยและจับกุมผู้ต้องหาในคดีล่อลวงเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ได้เมื่อ 4 วันก่อน (15 ธ.ค.) โดยนายวิมลได้ใช้เฟสบุ๊คสนทนาเพื่อล่อลวงให้หญิงสาวหลงเชื่อและยอมแลกเบอร์โทรศัพท์มือถือ จนกระทั่งมีการนัดพบตามสถานที่ต่างๆ และล่วงละเมิศทางเพศ พร้อมถ่ายคลิปวีดีโอไว้เพื่อข่มขู่
พ.ต.ท.ภูมิ ทองโพธิ์ สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.นครราชสีมา กล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้ปกครองของเด็กนักเรียนในจังหวัดนครราชสีมา เข้าแจ้งความกับตำรวจเมื่อเดือนที่แล้วว่า บุตรสาวถูกผู้ต้องหาล่อลวงไปกระทำชำเรา จนเกิดอาการซึมเศร้า ตำรวจจึงวางแผนจับกุม โดยการใช้รูปหญิงสาวหน้าตาดีพูดคุยติดต่อกับ นายวิมล ผ่านทางเฟสบุ๊ค เมื่อผู้ต้องหาหลงเชื่อ จึงนัดพบกันที่หน้าโรงแรมในเขตเทศบาลนครราชสีมา ก่อนแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมรับสารภาพกับตำรวจว่า ได้ล่อลวงหญิงสาวในลักษณะนี้มาแล้วหลายราย และถ่ายคลิปวีดีโอไว้ทุกครั้ง
พ.ต.อ.ผดุงเกียรติ ศิริพรวิวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา ระบุว่าเว็บไซต์เฟสบุ๊ค ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นเพื่อใช้ติดต่อสื่อสารในกลุ่มเพื่อน ซึ่งนักสังคมสังเคราะห์มองว่า เหมือนเป็นดาบสองคม โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการการเรียนรู้ อาจถูกล่อลวงได้ง่าย ดังนั้นการสนทนาทางเฟสบุ๊คควรใช้วิจารณญาณ ขณะเดียวกันผู้ปกครองควรให้คำแนะนำบุตรหลานที่เริ่มเรียนรู้ผ่านโลกออนไลน์
นางอรพิน นวพงศกร รองประธานศูนย์คุ้มครองเด็กและสตรี โรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวว่า การใช้เว็บไซต์เฟสบุ๊ค จนนำไปสู่การล่อลวงเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปีไปกระทำชำเรา ถือเป็นคดีแรกที่เกิดขึ้นในท้องที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 5 ราย ขณะเดียวกันกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้บล็อคเฟสบุ๊ค ที่ใช้ชื่อ แดน ศรีดา และนักรบแดนใต้แล้ว