ชุมชนริมคลองลาดพร้าวกว่า 3,000 ครัวเรือนเตรียมย้ายออกสิ้นปีนี้
นางธนพร เดชกัลยา ชาวชุมชนวัดบางบัว เขตหลักสี่ ซึ่งอาศัยอยู่แนวคลองลาดพร้าว ต้องย้ายขึ้นมาอยู่บนฝั่งในอีก 3 เดือน หลังกทม.เตรียมดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนริมคลองลาดพร้าวเพื่อป้องกันน้ำท่วม ระยะทาง 22 กิโลเมตร แต่การย้ายจากริมน้ำมาอยู่บนฝั่งยังเป็นปัญหาที่เธอกังวลใจว่าอาจสร้างความแออัดให้กับชุมชน เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องของพื้นที่
การขยายขนาดคลองให้กว้างขึ้นจากเดิมเป็น 38 เมตร ทำให้บ้านของนางปรียะนันท์ เสมอภาค ที่สร้างรุกล้ำคลองลาดพร้าว ถูกลดพื้นที่ใช้สอยลงเหลือเพียงห้องน้ำ เธอจึงเรียกร้องให้ลดการขยายพื้นที่คลองอยู่ที่ 30 เมตร เพื่อให้สามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมได้
"อยากให้รัฐบาลขยายคลอง 30 เมตรและให้เหลือแค่ 8 เมตรก็ยังดี จะได้เหลือครึ้งบ้านแล้วต่อเติมชั้นสอง พร้อมทั้งอยากให้ช่วยเหลือเรื่องค่ารื้อถอนหรือต่อเติมในส่วนที่เราจะอยู่" ปรียะนันท์กล่าว
จากการสำรวจโดยรอบของชุมชน สภาพความเป็นอยู่ค่อนข้างจะหนาแน่น โดยเฉลี่ยแต่ละครอบครัวมีผู้อยู่อาศัยไม่ต่ำกว่า 5-7 คน ซึ่งหากย้ายชุมชนริมคลองที่มีอยู่กว่า 70 หลังคาเรือนขึ้นมาอยู่บนฝั่งเพิ่มเติมจะส่งผลให้พื้นที่ชุมชนหนาแน่นมากขึ้น
แม้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) เสนอแนวทางรองรับที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนริมคลอง ในการแก้ปัญหารุกล้ำคูคลอง ตามนโยบายของรัฐบาล โดยให้ชุมชนออมเงินเข้ากลุ่มออมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย เพื่อนำเงินมาสร้างบ้านมั่นคงในชุมชนเดิม แต่ชาวบ้านไม่มั่นใจกับการเข้าร่วมกลุ่ม
ทั้งนี้ คลองลาดพร้าวเป็นคลองนำร่องการจัดระเบียบบ้านเรือนรุกล้ำคลองสาธารณะตามนโยบายของรัฐบาลและดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วม รวมระยะทาง 22 กิโลเมตร จากงบประมาณสนับสนุนของรัฐบาลจำนวน 2,400 ล้านบาท ใช้ระยะเวลา 4 ปี ซึ่ง กทม.จะเริ่มดำเนินการปลายเดือนตุลาคม 2558 ทำให้ชาวบ้านที่อยู่อาศัยรุกล้ำคลองจำนวนกว่า 3,000 หลังคาเรือน ต้องเตรียมตัวย้ายออกจากพื้นที่ภายในปลายปี 2558