ช่อง 7 ไม่ต่อสัญญา “สุรางค์ เปรมปรีดิ์”

ประธานกรรมการบริษัทกรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ตัดสินใจไม่ต่อสัญญา “สุรางค์ เปรมปรีดิ์” ผู้บริหารของช่อง 7 โดยเฉพาะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของละครช่อง 7

แนวทางการทำละครช่อง 7 ที่ชัดเจนโดยเน้นเอาใจผู้ชมจำนวนมากในต่างจังหวัดเป็นกลยุทธ์ที่ชัดเจนตลอดระยะเวลาหลายสิบปีของ สุรางค์ เปรมปรีด์ทำให้ละครช่อง 7 ครองใจผู้ชมซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศได้ตลอดมา อาทิโก๊ะ 7 ละครในช่วงเย็นมีเรตติ้งถึง 15 รวมถึงจำนวนผู้ชมของนางฟ้ามาเฟียที่เฉือนชนะตอนจบของละครคู่แข่งที่มีกระแสดีอย่างเกมร้ายเกมรักไปได้อย่างหวุดหวิด
 
แม้ละครจะเป็นรายได้หลักของสถานีสามารถสร้างเรตติ้งและความนิยมให้ช่อง 7 มาได้เป็นเวลานาน แต่การเปลี่ยนแปลงไปของวงการสื่อและธุรกิจบันเทิงที่มีสื่อใหม่ อย่างสื่อออนไลน์เข้ามาช่วงชิงจำนวนผู้ชม รวมถึงการปรับตัวของสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง โดยเฉพาะช่อง 3 ที่ใช้การสร้างแบรนด์ และกิจกรรมทางการตลาดสื่อสารกับผู้ชมอย่างต่อเนื่อง แม้ในหลายครั้งเรตติ้งจะสู้ช่อง 7 ไม่ได้ แต่ภาพลักษณ์ความทันสมัยและความเป็นแบรนด์สื่อบันเทิงที่ชัดเจนมากก็ทำให้ผู้สนับสนุนรายการต่างๆหันมาให้ความสนใจกับช่อง 3 มากขึ้น

ทำให้ที่ผ่านมาช่อง 7 มีความพยายามในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งผู้บริหาร โดยนำนักการตลาดอย่าง ชาลอต โทณะวณิก มานั่งในตำแหน่งสำคัญ แต่เป็นที่รู้กันว่า สุรางค์ เปรมปรีด์ ยังคงมีบทบาทในฐานะที่ปรึกษา โดยเฉพาะยังอยู่ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ หรือ ประธานกรรมการละคร

ไม่เพียงเรตติ้งช่อง 7 ที่เริ่มลดลง แต่ภาพลักษณ์ด้านข่าวที่เปลี่ยนแปลงไปน้อยมาก รวมถึงการช่วงชิงการบริหารภายในช่อง 7 ระหว่างผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 ตระกูล คือ รัตนรักษ์ และกรรณสูต บวกกับคนใกล้ชิดระบุว่า สุรางค์ เปรมปรีด์ ในวัย 69 ปี รู้สึกอ่อนล้ากับภารกิจที่รับผิดชอบมาเนิ่นนาน และเมื่อประธานกรรมการบริษัทกรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาซึ่งทำเป็นรายปี จึงมีผลให้สุรางค์ เปรมปรีด์พ้นจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ซึ่งมีผลทันทีในเดือนมกราคมปีหน้า เป็นที่คาดกันว่าการยุติบทบาทนี้ น่าจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภายในช่อง 7 ไม่น้อย หลังที่สุรางค์ เปรมปรีด์ กุมบังเหียนช่องนี้มานานกว่า 30 ปี