กลุ่มผู้ประกอบการขนส่งนัดชุมนุมค้านขึ้นราคา NGV 9 ม.ค.
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยถึงกรณีกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งเตรียมนัดชุมนุมปิดถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณหน้ากระทรวงพลังงาน ในวันที่ 9 ม.ค.นี้ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลชะลอการปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ หรือแก๊ส NGV ออกไปอีก 1 ปีว่า ได้นัดผู้ประกอบการเข้ามาเจรจาที่กระทรวงฯ ในวันที่ 12 ม.ค.นี้ โดยจะเปิดให้ชี้แจงรายละเอียดของผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งหากพิสูจน์ได้ว่า การปรับขึ้นราคาแก๊ส NGV ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นจริง ทางกระทรวงฯ ก็ยินดีที่จะพร้อมระบุว่า ขณะนี้ ปตท.ขาดทุนจากการตรึงราคาจำหน่ายแก๊ส NGV แล้วกว่า 40,000 ล้านบาท โดยในปี 2554 ที่ผ่านมาเพียงปีเดียว ปตท.ขาดทุนมากถึง 24,000 ล้านบาท ทำให้ ปตท.ไม่สามารถขยายสถานีให้บริการ NGV ได้ เนื่องจากยังขาดทุนอยู่ ส่งผลให้ธุรกิจ NGV ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้
ขณะเดียวกันก็ได้เตรียมพิจารณาการปรับขึ้นราคามิเตอร์ให้รถแท็กซี่ หากมีการปรับขึ้นราคาแก๊ส NGV เนื่องจากราคามิเตอร์รถแท็กซี่ไม่ได้มีการปรับขึ้นมาตั้งแต่ปี 2551 แล้ว แต่จะขึ้นในสัดส่วนเท่าใดอยู่ที่การพิจารณาจากกระทรวงคมนาคม
ขณะที่นายวิฑูรย์ แนวพานิช นายกสมาคมผู้ประกอบการแท็กซี่สยาม ระบุว่า กลุ่มผู้ประกอบการรถแท็กซี่ยังคงยืนยันนัดชุมนุมคัดค้านการปรับขึ้นราคาแก๊ส NGV ในวันที่ 9 ม.ค.นี้ต่อไป โดยไม่สามารถเลื่อนไปเป็นวันที่ 12 ม.ค. ตามที่ รมว.พลังงานขอนัดเจรจาได้ เนื่องจากได้มีการนัดหมายรวมพลเพื่อคัดค้านไปแล้ว
เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งสินค้าภาคอีสาน นายขวัญชัย ติยะวานิช นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน ระบุว่า ได้เตรียมนำรถมาจอดประท้วงตามสถานที่ต่างๆ ที่ได้นัดหมายไว้ เพื่อเรียกร้องให้มีการทบทวนการปรับขึ้นราคา เนื่องจากหากมีการปรับขึ้นราคาแก๊ส NGV เดือนละ 50 สตางค์ ไปจนครบ 6 บาทภายในสิ้นปีนี้ จะทำให้ราคาแก๊ส NGV ปรับขึ้นจากเดิมลิตรละ 8.50 บาท เป็น 14.50 บาท หรือคิดเป็นราคาเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 70 ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่ง
ขณะที่นายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก.ได้เตรียมพร้อมที่จะนำรถของ ขสมก.เข้าไปให้บริการในสายที่รถเมล์เอกชนหยุดให้บริการ โดยอ้างเรื่องราคาต้นทุนแก๊สเอ็นจีวีที่จะปรับราคาขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของประชาชน โดยประเมินจากสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ทาง ขสมก.ก็สามารถให้บริการแทนรถเมล์เอกชนได้
นอกจากนี้ หากคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรถเมล์ NGV จำนวน 3,186 คัน ตามที่กระทรวงคมนาคมได้เสนอไปแล้วก่อนหน้านี้ ก็จะสามารถนำรถออกมาให้บริการแก่ประชาชนทดแทนรถเมล์เก่าที่เสื่อมสภาพ