จำนำข้าวส่อเค้ามีปัญหา
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2554/55 ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่า มีข้าวเปลือกเข้าสู่โครงการแล้ว 4.7 ล้านตัน ซึ่งถือว่าต่ำมาก จากที่คาดว่า หลังสิ้นเดือน ธ.ค.54 ไปแล้ว จะมีข้าวเปลือกเข้าโครงการไม่ต่ำกว่า 10 ล้านตัน
ที่น่าเป็นห่วงคือ ปริมาณข้าวที่เข้าโครงการครั้งนี้ได้หักปริมาณข้าวจากภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างที่เสียหายจากน้ำท่วมแล้ว นั่นหมายถึงปริมาณการเข้าร่วมมีน้อยกว่าที่ควรจะเป็นมาก
ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าข้าวหายไปไหนหมด เพราะเดือน ม.ค. เป็นช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยวข้าวนาปีแล้ว เมื่อถามไปยังโรงสีที่ซื้อข้าวเพื่อทำการค้าของตัวเองก็ได้รับรายงานว่าไม่มี เช่นเดียวกับผู้ส่งออกที่ระบุว่าไม่มีข้าวอยู่ในสต็อก เบื้องต้นคาดว่า อาจเป็นไปได้ว่ามีคาดการณ์ผลผลิตผิดพลาด หรือเจ้าหน้าที่รับจำนำข้าวแจ้งปริมาณมายังส่วนกลางล่าช้า แต่ก็ไม่น่าจะคลาดเคลื่อนมากนัก
ส่วนในการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับและดูแลการรับจำนำข้าวที่มีนายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ เป็นประธานในสัปดาห์นี้ จะสั่งการให้กรมการค้าภายในออกประกาศตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว พ.ศ.2489 กำหนดให้ผู้ที่มีข้าวในครอบครองต้องแจ้งปริมาณให้กรมการค้าภายในทราบ เพื่อจะได้ทราบปริมาณข้าวที่แท้จริงในประเทศ และกำหนดแนวทางบริหารจัดการให้ราคาข้าวในประเทศมีเสถียรภาพและไม่ต่ำเกินไป
ด้านนายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบการลักลอบนำเข้าข้าวเปลือกตามแนวชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้นำมาสวมสิทธิ์เกษตรกรไทยเข้าสู่โครงการรับจำนำข้าว โดยก่อนหน้านี้ได้รับรายงานจากหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 13 จุดตรวจที่อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ว่าพบรถยนต์บรรทุกพ่วง บรรทุกข้าวสาร 1,000 กระสอบ หรือ 50 ตัน โดยไม่มีใบอนุญาตขนย้าย จึงส่งให้ สภ.คลองหาด สอบสวนตามกฎหมาย จากการสอบสวนคนขับรถยนต์ พบเป็นเพียงลูกจ้างขับรถให้นายจ้างจากอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี เพื่อไปส่งที่จังหวัดปราจีนบุรีเท่านั้น แต่จะขยายผลเพื่อดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไป
ด้านสถานการณ์ข้าวถุง นายสุเมธ เหล่าโมราพร กรรมการสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวถึงภาพรวมตลาดข้าวถุงในปี 2555 จะขยับราคาขึ้นอีกร้อยละ 5-10 เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบเป็นหลัก คือตลาดข้าวเปลือกซึ่งขยับราคาสูงขึ้นจากปี 2554 และเป็นสัดส่วนของต้นทุนการผลิตข้าวถุงร้อยละ 80
โดยราคาข้าวที่ปรับสูงขึ้นเป็นผลจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาล 2554/55 ที่กำหนดราคาข้าวเปลือกสูงขึ้น ทั้งข้าวเปลือกเจ้าตันละ 15,000 บาท และข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 20,000 บาท ประกอบกับผลผลิตข้าวนาปีฤดูกาลนี้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมไร่นาเสียหายถึง 7-8 ล้านไร่ ข้าวหายไปจากตลาด 4-5 ล้านตัน ราคาจึงปรับขึ้น
อย่างไรก็ตามคาดว่า ราคาข้าวถุงที่ปรับขึ้นมาร้อยละ 5-10 เป็นราคาที่เหมาะสม และคาดว่าตลาดข้าวถุงจะไม่มีการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นมากไปกว่านี้ เพราะการแข่งขันในตลาดข้าวถุงยังมีสูง และหากมีการปรับราคาขึ้นสูง รัฐบาลก็จะทำข้าวถุงธงฟ้าราคาต่ำกว่าออกมาจำหน่าย โดยผู้ประกอบการสามารถปรับราคาขึ้นได้เลย เนื่องจากราคาข้าวถุงยังไม่ชนเพดานที่กรมการค้าภายในกำหนด