ฝ่ายค้านชี้ออก พ.ร.ก.กู้เงิน 4 ฉบับขัดรัฐธรรมนูญ
นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีที่แถลงผลการประชุม ครม. แต่วันนี้ ( 10 ม.ค.) คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงพร้อมกันถึงมติเห็นชอบพระราชกำหนด หรือ พ.ร.ก.4 ฉบับด้วย โดยสาระสำคัญ ระบุว่า แนวทางการเปิดโอกาสให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเรียกเก็บเงินนำส่งจากสถาบันการเงินเพิ่มเติม เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจะไม่เป็นภาระกับสถาบันการเงินมากเกินไป เพราะ พ.ร.ก. จะเพิ่มแนวให้จากกฎหมายเดิม ที่ ธ.ป.ท. นำกำไรสัดส่วนร้อยละ 90 และรายได้จากทุนสำรองระหว่างประเทศส่วนหนึ่ง คือ การเรียกเงินนำส่งจากสถาบันการเงินเพิ่มซึ่งอัตรานั้น จะรวมกับเงินนำส่งเข้าสถาบันคุ้มครองเงินฝากต้องไม่เกินร้อยละ 1 ของเงินฝาก
ขณะที่คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุว่า ในสัปดาห์นี้ฝ่ายค้านจะตั้งกระทู้ถามสดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานถึงการขึ้นราคาก๊าซ NGV และ การเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะปัญหาการใช้คูปอง 2,000 บาท พร้อมเรียกร้องนายกรัฐมนตรีแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่า รัฐบาลจะเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมถึงความชัดเจนในคณะกรรมการยกร่างฯ
ส่วนนายสรรเสริญ สมะลาภา วิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.ก.เงินกู้ 4 ฉบับ ของรัฐบาล โดยเฉพาะการโอนหนี้เข้ากองทุนฟื้นฟู ให้ ธ.ป.ท. รับผิดชอบการชำระดอกเบี้ยและเงินต้นเพราะผลในทางปฏิบัติอาจกลายเป็นการบังคับให้ ธ.ป.ท.ต้องออกพันธบัตรใหม่ รวมถึงมีความพยายามนำเงินทุนสำรองของประเทศออกมาใช้ ซึ่งเห็นว่า ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากดำเนินการเช่นนี้อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 โดยฝ่ายค้านยื่นเรื่องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ร่างพ.ร.ก.ฉบับนี้เพียงฉบับเดียวก่อน ส่วนฉบับอื่นจะหารือใน ครม.เงาของพรรคพรุ่งนี้ ( 11 ม.ค.)
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ยังมีมติเห็นชอบให้วันตรุษจีน วันที่ 23 มกราคม เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติมอีก 1 วัน ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูล เพื่อให้คนไทยเชื้อสายจีนได้มีวันหยุด ประกอบพิธีทางศาสนาและสืบทอดวัฒนธรรม รวมถึงมีมติเห็นชอบที่จะแบ่งเบาภาระของประชาชน ให้ต่ออายุมาตรการรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี ออกไปจนถึงวันที่ 30 เมษายนนี้