ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

อธิบดีกรมอุทยานฯอ้าง "เผาช้าง" ป่าแก่งกระจาน ตามคำแนะนำสัตวแพทย์

สังคม
17 ม.ค. 55
01:10
24
Logo Thai PBS
อธิบดีกรมอุทยานฯอ้าง "เผาช้าง" ป่าแก่งกระจาน ตามคำแนะนำสัตวแพทย์

อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชยืนยันว่า เหตุที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานต้องทำการเผาซากช้างป่าที่ถูกยิงตาย เป็นไปตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่

นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำเอกสารยืนยันความเห็นในการเผาทำลายซากช้างต่อสื่อมวลชน ขณะลงพื้นที่บริเวณริมห้วยหมู่ 3 บ้านป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นจุดที่เผาซากช้าง

โดยอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระบุว่า ก่อนที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯจะทำการเผาซากช้างตัวดังกล่าวได้มีการทำหนังสือเอกสารอย่างถูกต้องเพื่อขอความเห็นในการทำลายซากช้างจากนายภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์ปฏิบัติการสัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากระหว่างนั้นนายสัตวแพทย์ได้อยู่นอกพื้นที่จึงไม่สามารถเดินทางมาดำเนินการเองได้ทันที และ แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ทราบถึงวิธีที่สามารถดำเนินการได้ 3 วิธี ได้แก่ การฝังกลบ, เผา, และ โรยด้วยปูนขาว หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้ว เกรงว่า อาจเกิดอันตรายของสารปนเปื้อนลงแหล่งน้ำซึ่งเป็นที่อาศัยดื่มกินของช้าง และสัตว์ป่ารวมถึงมนุษย์ เจ้าหน้าที่จึงเผาในทันทีโดยใช้เวลา 2 วัน

ส่วนสาเหตุที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเพิ่งจะนำหนังสือที่ได้รับหนังสือจากนายสุริยนต์ โพธิบัณฑิต ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มาเปิดเผย เนื่องจากนายสุริยนต์ ติดราชการที่อื่นและหนังสือมาล่าช้า

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช ยังระบุอีกว่า สาเหตุที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ถึงที่มาของการเผาซากช้าง เนื่องจากต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ โดยประเด็นหลักไม่ได้อยู่ที่คนเผาช้างแต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่คนที่ยิงช้าง ซึ่งเรื่องนี้ต้องมอบหมายให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินตามขั้นตอนต่อไป

นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ถึงการตั้งกองทุน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรกรณีที่ช้างเข้ามาบุกกินพืชไร่ โดยจะจ่ายเป็นค่าชดเชยให้กับเกษตรกรในราคาตลาด เพื่อป้องกันข้อพิพาทระหว่างคนกับช้างอีก


ข่าวที่เกี่ยวข้อง