ผู้เชี่ยวชาญพลุชี้เหตุพลุบึ้มในสุพรรณบุรีเกิดจากความประมาท

ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตและแสดงพลุ ชี้สาเหตุของพลุที่แสดงในงานตรุษจีน จังหวัดสุพรรณบุรี เกิดจากความประมาทของผู้จัดแสดงพลุ ที่นำพลุจำนวนมากมากองในสนามพลุ เมื่อเกิดระเบิดของพลุที่จุด ประกายไฟจึงพุ่งไปยังกองพลุทำให้เกิดระเบิดจนควบคุมไม่ได้

  

เหตุพลุระเบิดในการงาน “ตรุษจีนสุพรรณบุรี ปีมังกรทองสวรรค์” ณ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ของจังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตและแสดงพลุระบุว่า เป็นครั้งแรกที่มีความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินมากที่สุด

ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์สาเหตุการระเบิดจากภาพเหตุการณ์ที่ถูกเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตว่า จากคลิปนี้ วินาทีที่ 6 จะเห็นความผิดปกติจากการจุด เพราะนอกจากพลุที่พุ่งไประเบิดบนท้องฟ้า ยังพบมีการระเบิดในภาคพื้นดิน ในลักษณะครึ่งวงกลม ซึ่งคาดว่า พลุที่จุดในสนามจะมีการแตกบริเวณปากกระบอก และมีประกายไฟพุ่งไปยังกองพลุที่นำมากองไว้ใกล้กับจุดที่ใช้จุดพลุ หรือที่เรียกว่าสนามจุดพลุ ซึ่งคาดว่า จากนั้นทำให้เกิดระเบิดจนควบคุมไม่ได้

ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตและจัดแสดงพลุระบุถึงข้อควรระวังสำคัญ 3 ข้อหลักในการปฏิบัติงานคือ
1. ไม่สูบบุหรี่ขณะทำงาน เพราะพลุคือวัตถุระเบิดที่เป็นอันอันตราย
2. ใช้ความระวังในการขนย้าย และทุกขั้นตอน เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้
3. ไม่นำพลุไปเก็บไว้ในสนามพลุ ซึ่งข้อนี้คือความประมาทที่น่าจะเป็นต้นเหตุการระเบิดในครั้งนี้

สำหรับกฎหมายที่เข้ามาควบคุมดูแลการจัดเก็บ การขออนุญาต เกี่ยวกับดอกไม้เพลิง และวัตถุระเบิด จะอยู่ภายใต้พระราชบัญญัตควบคุมและกำกับดูแลวัตถุระเบิดและดอกไม้เพลิง พ.ศ.2490 ซึ่งผู้ที่จะครอบครองต้องได้รับการอนุมัติจาก รมว.มหาดไทย หรือนายทะเบียนท้องที่ โดยใบอนุญาตที่ออกให้ จะมีอายุใช้ได้เพียง 1 ปี

และที่ผ่านมา การเกิดระเบิดของโรงงาน หรือสถานที่จัดเก็บพลุดอกไม้ไฟ ก็พบว่าเกิดขึ้นแล้วหลายครั้ง เช่น ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อต้นปี 2554 ที่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 3 ตำบลบ้านเกาะ ครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บอีก 4 คน บ้านเรือนเสียหาย 4 หลัง

ก่อนนั้นเมื่อปี 2552 เกิดเหตุระเบิดในตึกแถวย่านอำเภอพระประแดง เสียหายถึง 7 ห้อง มีคนงานและเพื่อนบ้านบาดเจ็บ 24 คน เสียชีวิต 1 คน ซึ่งทั้ง 2 กรณีเกิดจากความรีบเร่งในการผลิตเพื่อให้ทันส่งในเทศกาล

ซึ่งต่างจากกรณีในงานที่จังหวัดสุพรรณบุรี เพราะเกิดขณะจัดแสดง