อุตสาหกรรมการบินปั่นป่วน หลังเหตุก่อการร้าย-ขู่วางระเบิดชุก
วันที่ 14 พ.ย.2558 หลังเกิดเหตุโจมตีกรุงปารีสเพียงไม่กี่ชั่วโมง สายการบินแอร์ฟรานซ์เที่ยวบินที่ AF 1741 ซึ่งกำลังมุ่งหน้าจากกรุงอัมสเตอร์ดัมไปกรุงปารีสถูกสั่งห้ามขึ้นบินและต้องอพยพผู้โดยสารออกจากเครื่อง เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบว่ามีผู้ใช้งานทวิตเตอร์คนหนึ่งโพสต์ข้อความขู่วางระเบิดเที่ยวบินดังกล่าว แต่จากการตรวจค้นไม่พบวัตถุต้องสงสัย ส่วนที่สนามบินแกทวิคในอังกฤษสั่งอพยพผู้คนจากอาคารผู้โดยสารทางด้านเหนือและปิดอาคาร เนื่องจากมีการพบวัตถุต้องสงสัย ก่อนจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติในอีก 6 ชั่วโมงถัดมา
วันที่ 17 พ.ย.2558 เที่ยวบินของสายการบินแอร์ฟรานซ์ 2 เที่ยวบินที่กำลังมุ่งหน้าจากสหรัฐอเมริกาไปยังกรุงปารีสต้องลงจอดฉุกเฉินเพื่ออพยพผู้โดยสารออกจากเครื่องบินและตรวจสอบความปลอดภัย ได้แก่ เที่ยวบินที่ AF 55 ซึ่งเดินทางจากสนามบินวอชิงตันดัลเลสไปยังกรุงปารีสลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินนานาชาติฮาลิแฟกซ์ สแตนฟีลด์ ทางตะวันออกของแคนาดา และเที่ยวบินที่ AF65 ซึ่งบินจากสนามบินลอสแองเจลิสไปยังกรุงปารีสต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินซอลท์เลค ซิตี้ ในรัฐยูทาห์ เนื่องจากมีการขู่วางระเบิด แต่จากการตรวจค้นไม่พบวัตถุต้องสงสัย
วันที่ 20 พ.ย.2558 สายการบินอีซีเจท ที่เดินทางจากเมืองแมนเชสเตอร์ในอังกฤษไปยังประเทศโมรอคโคสั่งอพยพผู้โดยสารออกจากเครื่องเป็นการด่วน หลังจากผู้โดยสารคนหนึ่งอ้างว่ามีระเบิดอยู่ในกระเป๋า แต่จากการตรวจค้นก็ไม่พบวัตถุต้องสงสัย เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ก่อความวุ่นวายไว้ 2 คน
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (22 พ.ย.2558) สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลนส์ออกมายอมรับว่ามีการขู่วางระเบิดเที่ยวบินที่ SQ 001 ที่เดินทางจากซานฟรานซิสโกไปสนามบินชางงีของสิงคโปร์ แต่เครื่องบินลำดังกล่าวลงจอดได้อย่างปลอดภัยและไม่มีเหตุร้ายใดๆ เกิดขึ้น
ขณะที่สายการบินเทอร์กิช แอร์ไลนส์ ที่บินจากนครนิวยอร์กไปยังนครอิสตันบูลของตุรกีพร้อมผู้โดยสาร 256 คน ต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินนานาชาติฮาลิแฟกซ์ สแตนฟีลด์ ในแคนาดาเมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) เช่นกันเนื่องจากมีการขู่วางระเบิด แต่จากการตรวจค้นไม่พบวัตถุต้องสงสัยและเที่ยวบินดังกล่าวได้รับอนุญาตให้เดินทางต่อไปยังจุดหมายเดิม