นายกฯ ยันจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อฟื้นฟูประเทศ

การเมือง
1 ก.พ. 55
05:58
14
Logo Thai PBS
นายกฯ ยันจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อฟื้นฟูประเทศ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยัน พ.ร.ก. กู้เงินของรัฐฯ เป็นเรื่องเร่งด่วน เพื่อการแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน ขณะที่งานสัมนาเรื่องถอดรหัสจีดีพี ปี 55 โดยนายกฯ ได้ประธานเปิดงาน และได้กล่าวถึงมุมมองเศรษฐกิจปีนี้ คาดเศรษฐกิจไทยจะเติบโตร้อยละ 5 จากการส่งออก

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดสัมนาเรื่องถอดรหัส GDP ปี 55  โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่องมุมมองเศรษฐกิจปี 55 ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าปีนี้ทุกคนให้ความสนใจเรื่องเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมามีความผันผวนทางด้านเศรษฐกิจ และทุกคนต้องตื่นตัวเดินหน้า และปีนี้เป็นปีแห่งความท้าทายของคนในชาติที่จะกอบกู้เศรษฐกิจด้วยกัน ซึ่งขณะนี้ระบบเศรษฐกิจโดยรวมของไทยรายได้ร้อยละ 70 มาจากการส่งออกที่ต้องพึ่งเศรษฐกิจโลก ซึ่งตนเองมองว่าไทยมีการเตรียมการส่งออกไปประเทศอื่นๆ

นอกจากนี้ปัจจัยเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจของไทยมีความเสี่ยง 3 อย่าง คือ 1.ความผันผวนของวิกฤตสหรัฐ และยุโรป ซึ่งสินค้าไทยส่งออกอยู่ที่ 19% ซึ่งอาจกระทบกับไทยได้ 2. ความผันผวนของค่าเงินบาท แต่อาจเป็นปัจจัยบวกเรื่องการส่งออก 3.ความเสี่ยงเรื่อภัยธรรมชาติ ที่สภาพภูมิอากาศทั้งอาเซียนเปลี่ยนไปเราต้องมีการปรับตัว ซึ่งมีผลต่อความมั่นคงทางอาหาร ตามที่หลายประเทศกังวล

ขณะที่แผนออก พ.ร.ก.กู้เงินกว่า 300,000 ล้านบาท ของรัฐบาลต้องรีบทำอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนเพื่อสร้างความมั่นใจของคนในชาติ และนักลงทุนต่างชาติ เพราะห่วงเรื่องการย้ายฐานการผลิต แต่ไทยยังต้องพึ่งเศรษฐกิจโลก ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 5 ด้วยการส่งออกไปทางตะวันออกกลาง และอาเซียน และประเทศที่มีข้อตกลงเรื่องการค้าเสรี หรือฟรีเทรด (free tred) แต่ต้องปรับเรื่องความสามารถในการแข่งขันของไทย

ส่วนภาคการลงทุน จุดเด่นของไทย คือพื้นฐานของไทยที่ดีทั้งด้านการเกษตร และเรื่องคน รวมถึงข้อได้เปรียบที่ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนเชื่อมต่ออาเซี่ยน โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สร้างถนนเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน  และจะเป็นการลดต้นทุนค่าขนส่งระยะยาว

สำหรับแผนการลงทุนของภาครัฐนั้น มีแผนลงทุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2,700,000 บาท เพื่อสร้างกำลังในการแข่งขันกับต่างประเทศ และเงินลงทุนในการพัฒนาเรื่องน้ำท่วม 350,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยลดอัตราการว่างงาน และการบริโภคในประเทศจะต้องกระตุ้นโดยฐานราก ถ้าทุกคนมีรายได้ดีขึ้นเศรษฐกิจจะดีขึ้น เช่นการลดการเก็บภาษี จากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 13 รวมถึงการประกันรายได้ขั้นต่ำที่ 300 บาทซึ่งจะเริ่มในเดือนเมษายนปีนี้ ส่วนเงินเดือน 15,000 เริ่มแล้วเดือนกุมภาพันธ์นี้

ส่วนการถอดรหัส GDP ปี 55 เชื่อว่าถ้าทุกคนเชื่อมั่น ประเทศไทยจะเดินหน้าได้ และเชื่อว่าไตรมาสที่ 2 เศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น และขอความร่วมมือทุกคนช่วยกันกอบกู้เศรษฐกิจเดินฝ่าฟันวิกฤษฐเศรษฐกิจครั้งนี้

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความพรก.เงินกู้ 4 ฉบับบของกระทรวงการคลัง โดยย้ำถึงความจำเป็นของสถานการณ์ ที่ต้องฟื้นฟูประเทศ จากปัญหาอุทกภัยโดยเฉพาะการนำงบ 12,000 ล้านบาทแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจึงไม่ต้องการให้ฝ่ายค้านมองว่าเป็นเรื่องท้าทาย หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการออก พ.ร.ก.เงินกู้ขัดรัฐธรรมนู ญรัฐบาลต้องรับผิดชอบ เนื่องจากรัฐบาลไม่มีเวลาท้าทายด้วย เพราะจำเป็นต้องกอบกู้เศรษฐกิจในประเทศ หากไม่ดำเนินการโอกาสที่มีอยู่ก็จะหายไปหรือหากดำเนินการล่าช้าต่างประเทศอาจ ย้ายฐานการผลิตออกไปประเทศอื่น และไม่อยากให้นำเรื่องนี้เป็นประเด็นทางการเมือง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง