เหตุการณ์ยิงชาวบ้าน 4 ศพที่ปัตตานี ยังหาข้อสรุปไม่ได้
ญาติผู้บาดเจ็บ และ เสียชีวิตเข้าร้องเรียนกับมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมจังหวัดปัตตานีเป็นตัวกลางช่วยเหลือ และ ให้ความเป็นธรรมกรณีทหารพราน 4302 ยิงชาวบ้านกาหยี ตำบลปุโละปุโย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บอีก 4 คน เมื่อวันที่ 29 มกราคม ขณะทั้งหมดนั่งรถกระบะเตรียมไปละหมาดงานศพซึ่งเป็นเวลาไล่เลี่ยกับเหตุการณ์ลอบโจมตีฐานปฏิบัติการทหารพราน
โดยหลังการพูดคุยสอบถามข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากชาวบ้านมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมจังหวัดปัตตานี ได้ออกแถลงการณ์ เรียกร้องฝ่ายทหารพิจารณาข้อเท็จจริงให้รอบด้าน โดยเฉพาะการให้ข้อมูลที่แตกต่างของโฆษกกองอำนวยการความมั่นใจภายใน หรือ กอ.รมน. ว่า มีกลุ่มผู้ก่อเหตุโจมตีฐานทหารพรานปะปนอยู่กับชาวบ้าน ก่อนใช้อาวุธสงครามยิงทหารจึงต้องตัดสินใจยิงตอบโต้
ซึ่งทางมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมจังหวัดปัตตานี ระบุการให้ข้อมูลของทหารไม่ธรรมกับครอบครัวผู้สูญเสีย เพราะถูกผลักไปเป็นกลุ่มแนวร่วม ทั้งที่เป็นผู้ถูกกระทำ จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จริง
ขณะที่นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการกว่า 100 คน เพื่อสรุปบทเรียนในการทำงานในพื้นที่ ที่มีเงื่อนไข และความแตกต่างในด้านชีวิตความเป็นอยู่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนการสอบสวนข้อเท็จกรณีทหารยิงชาวบ้านเสียชีวิตและบาดเจ็บ ขณะนี้มีคณะกรรมการสองชุด คือ คณะทำงาน 4 ฝ่ายของทางจังหวัด และ อีกชุดที่เตรียมตั้งคือ คณะกรรมการอิสระ ตามที่ชาวบ้านเรียกร้อง หลังผลการเจรจาระหว่างทหารพรานและชาวบ้านเมื่อวานนี้ไม่ประสบความสำเร็จ
โดยเหตุยิงชาวบ้านเสียชีวิต 4 คนยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ช่วงเช้าที่ผ่านมาในพื้นที่เดียวกันยังเกิดเหตุอาสาสมัครทหารพรานทะนง สินธู ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิด 3 นัด ขณะขับรถจักรยานยนต์ไปทำงานที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร โดยตรวจสอบพบว่า อาสาสมัครทหารพรานทะนง เป็นทหารพราน 4302 บ้านน้ำดำ ซึ่งเพิ่งถูกสั่งย้ายจากฐานปฎิบัติการในตำบลปุโล๊ะปุโยะ ไปประจำที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร หลังเกิดกรณีรถยนต์ชาวบ้านถูกยิง ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า ผู้ลงมือเป็นกลุ่มแนวร่วมที่ออกมาตอบโต้เจ้าหน้าที่หรือไม่