สภาฯ ชะลอการพิจารณา พ.ร.ก.เงินกู้ และพ.ร.ก.โอนหนี้กองทุนฟื้นฟู
สภาผู้แทนราษฎรสามารถอภิปรายรับทราบการพิจารณาการตรากฎหมายจำนวน 4 ฉบับของรัฐบาล ได้เพียง 2 ฉบับ คือ พ.ร.ก.กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ และพ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย เนื่องจากมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้าชื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ และพ.ร.ก.ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน หรืออีก 2 ฉบับว่าขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ จึงต้องชะลอการพิจารณาออกไป
โดยภาพรวมของการชี้แจงของรัฐบาล และการอภิปรายของส.ส.พรรครัฐบาลคือการเทียบการออก พ.ร.ก. กู้เงินของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ในอดีตว่าสามารถดำเนินการได้ตามรัฐธรรมนูญ พร้อมกับยืนยันถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่จะฟื้นฟู แก้ไข และหาแนวทางป้องกันปัญหาอุทกภัยในอนาคต โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันถึงความพร้อมในการตรวจสอบ ขณะที่ผู้นำฝ่ายค้าน ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ชัดเจนในรายละเอียดของกฎหมายและย้ำถึงความทั่วถึงในการประกันภัยตามกฎหมาย เพราะหากเป็นการเลือกปฏิบัติ เตรียมยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมทันที
สำหรับเหตุผลที่ต้องยื่นตีความ พ.ร.ก.อีก 2 ฉบับ นายกรณ์ จาติกวนิช ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงเพิ่มเติมถึงข้อสังเกตที่พบว่ามีการบิดเบือนตัวเลขทางการเงิน และเป็นการดำเนินการที่ผลักภาระไปไว้กับประชาชน
ทางด้านนายปรีชา สุวรรทัต นักวิชาการด้านการเงินการคลัง เห็นว่าการให้ธนาคารแห่งประเทศไทยรับผิดชอบ ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย เพื่อชำระหนี้สาธารณะอาจขัดต่อวินัยการเงินการคลัง เพราะรายได้และทรัพย์สินของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เป็นเงินของแผ่นดินจะนำมาใช้ได้ต่อเมื่อเป็นบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย หรือกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังเท่านั้น แต่ พ.ร.ก. ไม่มีคุณสมบัติดังกล่าว
ขณะที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดหมายพิจารณารับคำร้อง กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นของ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กรณีวินิจฉัย พ.ร.ก.กู้เงิน 2 ฉบับ ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 184 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง หรือไม่ในต้นสัปดาห์หน้าแล้ว หลังจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้รับคำร้องไว้แล้วเมื่อเย็นวานนี้