เอกชน 13 รายยื่นเสนอราคาประมูลข้าวเสีย 3.7 หมื่นตัน
วันนี้ (1ธ.ค.2558) กรมการค้าต่างประเทศ ประกาศรายชื่อผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อประมูลข้าวเสียในสต็อกรัฐบาลปริมาณ 37,412 ตัน โดยเป็นข้าวจากโครงการรับจำนำปี 2551-2554 จากโกดัง 10 แห่ง ใน 7 จังหวัด โดยมีผู้ผ่านคุณสมบัติ จำนวน 13 ราย จากผู้ยื่นตรวจสอบคุณสมบัติ 14 ราย ทั้งผู้ประกอบการด้านพลังงาน เอทานอล แอลกอฮอล์ มีผู้ไม่ผ่านคุณสมบัติ 1 ราย คือบริษัท นอธอีส รับเบอร์ เนื่องจากไม่มีการจดทะเบียนเครื่องจักรกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม
ขั้นตอนการประมูล กรมการค้าต่างประเทศ กำหนดให้ ผู้ผ่านคุณสมบัติ 13 ราย ยื่นซองเสนอราคาประมูลได้ตั้งแต่เวลา 09.30 - 11.30 น. หลังจากนั้นจะมีการเปิดซองเสนอราคาทันทีและทราบผลเบื้องต้นในช่วงบ่าย สำหรับเงื่อนไขการประมูลข้าวเสีย กรมการค้าต่างประเทศระบุว่า จะขายให้กับผู้ที่ยื่นเสนอราคาสูงสุดในแต่ละคลังหรือกอง แต่หากเสนอราคาเท่ากัน ให้เสนอราคาเพิ่มเติมได้ จนกว่าจะมีผู้เสนอราคาสูงสุด
ส่วนการรับมอบ ผู้ซื้อจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการรับมอบข้าว และในการขนย้ายข้าว จะต้องมีใบอนุญาตขนย้ายตามประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ รวมทั้งต้องยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบสถานที่ทำการ ที่เก็บ ที่ผลิต เพื่อสุ่มตรวจข้าวได้ตลอดเวลา
ขณะเดียวกันที่ช่วงบ่ายวันนี้ (1 ธ.ค.2558) นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยปลัดกระทรวงพาณิชย์และอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เตรียมชี้แจงเหตุผลและเงื่อนไขการเปิดประมูลข้าวเสีย หลังมีเสียงคัดค้านจากหลายภาคส่วน ทั้งผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าว หรือ เซอร์เวย์เยอร์ โรงสี ให้มีการคัดแยกข้าวอีกครั้งก่อนนำมาประมูลเพื่อให้ขายข้าวได้ราคา ก่อนหน้านี้ผู้ส่งออกข้าวบางรายระบุว่า หากขายข้าวให้ภาคอุตสาหกรรมผู้ประกอบการจะซื้อได้ไม่เกินกิโลกรัมละ 4 บาท แต่หากเป็นอุตสาหกรรมอาหารสัตว์จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 6-8 บาท