การออกมาแสดงความเห็นทั้งสนับสนุน และ คัดค้านการแก้ไขมาตรา 112 ของกฎหมายอาญา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า เป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นเชิงวิชาการ จึงไม่น่านำมาซึ่งปัญหาความขัดแย้ง หากทุกฝ่ายที่เคลื่อนไหวอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย
ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เสนอให้นายกรัฐมนตรีสร้างความชัดเจนในการแก้กฎหมาย โดยเฉพาะการชี้แจงว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ โดยไม่เกี่ยวข้องกับหมวดพระมหากษัตริย์ และ ความพยายามจะนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และ ระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่ นายกรัฐมนตรี จะใช้ความเป็นสตรีลดความขัดแย้ง ตามที่เคยประกาศไว้
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการเคลื่อนไหว เนื่องจากไม่ต้องการให้ดึงสถาบันลงมาอยู่ท่างกลางความขัดแย้ง
ในการเคลื่อนไหวล่าสุดกลุ่มสยามประชาภิวัฒน์ จัดเสวนาทางวิชาการในหัวข้อ "วิกฤตประเทศไทย ใครคือตัวการ" ภายในคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยนายศักดิ์ณรงค์ มงคล นักวิชาการอิสระประกาศจุดยืนของกลุ่มที่จะเน้นคุณค่าสถาบันพระมหากษัตริย์สนับสนุนปฏิรูปการเมืองขจัดนายทุนผูกขาดอำนาจ วิกฤตเสรีภาพ ศีลธรรม และ จริยธรรม ด้านนักวิชาการส่วนหนึ่งแสดงความเห็นสะท้อนระบบการเมืองปัจจุบันที่นักการเมืองช่วงชิงกันสร้างภาพ และ พรรคการเมืองยังยึดระบบทุน
โดยเมื่อวานนี้ ( 5 ก.พ.) คณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 หรือ ครก. 112 มีนายยุกติ มุกดาวิจิตร อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดแถลงจุดยืนของกลุ่มที่อนุสรณ์สถานถนนราชดำเนิน ประกาศจะเดินหน้ารวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อเสนอแก้กฎหมายอาญา มาตรา 112 ตามที่คณะนิติราษฎร์ระบุไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมระบุที่จะจัด ครก.สัญจร เพื่อรวบรวมรายชื่อต่อไป