นายกฯส.ต้านโลกร้อน ถามนายกฯชาวบ้านฟ้องศาลปกครองร้องน้ำท่วมยังไม่แก้
ตามที่รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี มีแผนสร้างภาพโดยการทัวร์นกขมิ้นในเร็ว ๆ นี้ โดยจะเดินทางถึงฝูงบินกองการบินกรมการขนส่งทหารบก ดอนเมือง ในเวลา 13.00 น.เพื่อออกเดินทางไปยังท่าอากาศยานพิษณุโลก และเดินทางต่อไปยังเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ โดยเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบก ในเวลา 14.30 น.เพื่อรับฟังบรรยายสรุปโครงการพระราชดำริ และการดูแลป่าต้นน้ำ การปลูกป่า ฝายแม้ว การพัฒนาคลังข้อมูล ระบบพยากรณ์และการเตือนภัยด้านการบริหารจัดการน้ำ และการบริหารจัดการน้ำในเขื่อน อย่างไรก็ตาม ภายหลังการรับฟังบรรยายสรุปจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเวลา 16.30 น.นายกรัฐมนตรี และคณะ จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน จากนั้นจะเยี่ยมชมการบริหารจัดการเขื่อนและประตูระบายน้ำ พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และออกเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์กลับ จ.พิษณุโลก ในเวลา 17.30 น.
นายศรีสวุรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า สมาคมฯ ใคร่สอบถามนายกและคณะว่า การสร้างภาพเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยในอนาคต โดยการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำนั้น ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ (ตามรูปแนบ) มีพื้นที่รองรับน้ำตามธรรมชาติหรือแก้มลิงพื้นที่กว่า 7,500 ไร่ มีชื่อว่า “บึงกะโล่” แต่ทำไม่จึงปล่อยให้หน่วยงานของรัฐมากกว่า 20 หน่วยงาน โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิถ์ ได้เข้าใช้พื้นที่ถมที่เพื่อสร้างวิทยาเขตแห่งที่ 3 อีกกว่า 2,000 ไร่ (รัฐบาลอนุมัติงบประมาณให้สร้างแล้วหลายร้อยล้านบาท และกำลังถมที่บึงก่อสร้างอาคารอยู่ ตามรูปแนบ) วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอีกกว่า 250 ไร่ และหน่วยงานราชการอื่นอีก นอกจากนั้นยังได้ปล่อยให้มีผลาญงบประมาณแผ่นดินโดยการก่อสร้างศูนย์โอทอป ประจำจังหวัดขึ้นในบริเวณบึงดังกล่าวอีก (ปัจจุบันปล่อยทิ้งล้างเป็นที่อยู่อาศัยของนก หนู งู และเหี้ย) โดยไม่มีหน่วยงานใดกล้ารับเป็นเจ้าของ เรื่องดังกล่าวขัดต่อมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2553 โดยชัดแจ้งที่สั่งห้ามหน่วยงานราชการใดใช้ประโยชน์จากพื้นที่ชุ่มน้ำตามธรรมชาติ แต่หน่วยงานของรัฐในจังหวัดอุตรดิตถ์กลับปากว่าตาขยิบ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ หรือเป็นแก้มลิง ที่สามารถใช้เป็นที่รองรับน้ำแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ต้นน้ำได้อย่างมหาศาล
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวชาวบ้านได้ร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแล้วทั้ง สปก.อุตรดิตถ์ ผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ รมต.เกษตรฯ นายกรัฐมนตรี แต่ก็ไม่มีใครสนใจ จนชาวบ้านต้องไปฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลางแล้ว เป็นคดีที่ 366/2554 ขอฝากสื่อมวลชนถามนายกฯและคณะด้วยว่าจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร จะสั่งเพิกถอนการก่อสร้างและถมที่ดินของมหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์และหน่วยงานอื่น ๆ อย่างไร เพื่อนำแก้มลิงดังกล่าวกลับคืนมา หรือแสร้งสร้างภาพไปวัน ๆ ในการทัวร์นกขมิ้น แต่ความจริงกลับปล่อยให้หน่วยงานราชการบุกรุกหรือลุกล้ำแก้มลิงโดยธรรมชาติอย่างไม่กลัวเกรงสังคมหรือ