ผบช.ภาค 3 สั่งเอาผิดตร.ชัยภูมิขนซากกระทิง ซุกในรถตราโล่ 200 กก.ผ่านเขตฯภูเขียว
วานนี้ (2 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ จับกุมด.ต.มงคล บุญมาตุ่น อายุ 47 ปี ผบ.หมู่งานจราจร สภ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ อยู่บ้านเลขที่ 199 หมู่ 1 บ้านม่วงกุดยม ต.กุดยม อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ และ นายปรีชา ปราบพราน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 7 ต.คอนสาร อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ พร้อมของกลางเนื้อกระทิง 8 ถุงปุ๋ย น้ำหนักรวม 246 กิโลกรัม ขณะขับรถกระบะตราโล่ หมายเลข 28899 ของสภ.คอนสาร ผ่านด่านตรวจบริเวณเขื่อนจุฬาภรณ์
จากนั้นจึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.ห้วยยาง เพื่อดำเนินคดี จากการสอบสวนเบื้องต้น ด.ต.มงคลให้การปฏิเสธ ขณะที่นายปรีชาให้การรับสารภาพว่าขนซากกระทิงจริง
จากนั้นเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวได้รายงานให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทราบ ซึ่งนายธัญญา เนติธรรมกุล รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า สำรวจประชากร กระทิงทั่วประเทศ ปัจจุบันพบว่ามีประมาณ1,000 ตัว กระจายใน 13 กลุ่มป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศ ขณะที่นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการเอาผิดและดำเนินคดีตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มีโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ทางด้าน พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานแล้ว ได้สั่งการไปทางหัวหน้าสถานีว่า ขัดกับนโยบายของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. หลังจากเกิดเรื่องขึ้นมา ได้สั่งการให้ตรวจสอบย้อนหลังว่าตำรวจคนดังกล่าวมีพฤติกรรมเช่นนี้มานานเท่าใด ทำเป็นขบวนการ อาชีพ หรือทำไปเพื่ออะไร ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งหากพบว่ากระทำผิดจริง จะให้ออกจากราชการทันที พร้อมดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา
ผบช.ภาค 3 กล่าวต่อว่า ทาง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 3 สั่งการให้ตรวจสอบอย่างเด็ดขาดเกี่ยวกับพฤติกรรมตำรวจนายนี้ พร้อมสั่งกวาดล้างผู้กระทำความผิดทุกประเภท โดยให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อความเป็นธรรม หากกระทำผิดจริงต้องถูกลงโทษ เนื่องจากใช้รถตราโล่ในการขนย้ายสัตว์ป่า และจะมีการขยายผลถึงผู้จ้างวานด้วย จึงขอฝากตำรวจทุกนายห้ามไปข้องเกี่ยวกับสิ่งของผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด ไม้พะยูง ค้าสัตว์ป่า ค้าอาวุธสงคราม หรือแม้แต่การค้ามนุษย์ หากพบจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด