สตง.จี้คมนาคมแจงใช้งบฯ 1,800 ล้านบาทซ่อมถนน
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรกาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน รักษาราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม และอธิบดีกรมทางหลวง เพื่อให้ทบทวนการใช้งบประมาณจำนวน 1,813 ล้าน เนื่องจากเกรงว่าการใช้งบประมาณตามโครงการบูรณะฟื้นฟูเร่งด่วนทางสายหลัก และโครงข่ายสำคัญที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย 33 โครงการ ไม่คุ้มค่า และไม่จำเป็นเร่งด่วนตามวัตถุประสงค์ทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายในกระบวนการจัดจ้าง และอาจส่งผลกระทบต่อวินัยการคลังที่เกิดจากการเสียโอกาส โดยเห็นว่ากระทรวงคมนาคมควรนำงบประมาณดังกล่าวไปบูรณะฟื้นฟูทางหลวงที่ได้รับความเสียหาย และต้องการซ่อมแซมเร่งด่วนจะเกิดความคุ้มค่ามากกว่า
ทั้งนี้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยังเปิดเผยกับไทยพีบีเอสอีกว่า การออกจดหมายฉบับดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการส่งเจ้าหน้าที่ และทีมวิศวกรลงพื้นที่สำรวจพบว่า บางโครงการไม่มีความจำเป็นต้องซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน หรือมีความเสียหายน้อยกว่าปริมาณที่ของบประมาณซ่อมบำรุง อาจจะทำให้การใช้งบประมาณไม่คุ้มค่า และไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของงบประมาณ
นอกจากนี้ยังพบว่า การขอใช้งบประมาณของกระทรวงคมนาคมดังกล่าวมีมูลค่าสูง แต่กลับมีพฤติกรรมดำเนินการเร่งรีบ ฝ่ายตรวจสอบ สตง.จึงต้องการให้กระทรวงคมนาคมส่งข้อมูลการสำรวจสภาพความเสียหายเดิมที่ใช้ของบประมาณ และสำรวจสภาพความเสียหายใหม่อีกครั้ง รวมทั้งส่งแบบรายการที่ใช้ในการถอดแบบคำนวณราคากลาง และรายละเอียดการคำนวณราคากลาง ทั้งปริมาณ และราคาให้ สตง. เนื่องจากมีข้อมูลที่ทำให้เชื่อได้ว่าอาจมีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น
โดยงบประมาณจำนวนดังกล่าวเป็นการอนุมัติงบกลางปี 2555 ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 12 ธันวาคม 2554 ในโครงการบูรณะฟื้นฟูเร่งด่วนทางหลวงสายหลักที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย มีพื้นที่ซ่อมแซมทั้ง 33 โครงการอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง อาทิ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นนทบุรี เป็นต้น
ด้านนายเจือ ราชสีห์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า การนำงบกลางที่ครม.มีมติให้นำมาใช้ฟื้นฟูกรณีเร่งด่วนจากน้ำท่วม แต่หน่วยงานของรัฐกลับนำมาใช้ในกรณีปกติ ถือว่าขัดมติครม. จึงเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีดำเนินการตรวจสอบ เพราะอาจไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ทางรัฐบาลต้องการใช้จ่ายงบเพื่อเร่งฟื้นฟูสาธารณะประโยชน์ให้กับประชาชน