วานนี้ (8 ธ.ค.2558) นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะกำกับงานด้านการศึกษา กล่าวถึงกรณีข้อสงสัยการจัดซื้อเครื่องดนตรีในสังกัดกรุงเทพมหานครว่า พร้อมให้มีการตรวจสอบการจัดซื้อ และยอมรับว่ามีโรงเรียนไม่กี่แห่งที่นำเครื่องดนตรีออกไปใช้งาน เพราะขาดครูสอนดนตรี ทั้งนี้โครงการพัฒนาทักษะทางดนตรี ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 และได้ดำเนินการมาเป็นระยะๆ จนถึงปัจจุบัน โดยยืนยันว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่มีคุณค่า ทำให้นักเรียนมีโอกาสที่จะพัฒนาตนเองทางด้านอารมณ์ จิตใจ สมาธิ วินัย และความเป็นมนุษย์ในมิติอื่นที่มิใช่ความรู้แต่เพียงอย่างเดียว
ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องนี้กับทาง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ภายหลังการประชุมผู้บริหาร กทม. แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ เลี่ยงที่จะตอบคำถามเรื่องนี้
นายจรูญ มีธนาถาวร ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร กล่าวว่าปัจจุบันโรงเรียนกทม.ทั้ง 438 แห่ง มีชุดเครื่องดนตรีครบแล้วทุกแห่ง ซึ่งยืนยันว่าแต่ละโรงเรียนได้เสริมสร้างพัฒนาการด้านดนตรีให้กับเด็กนัก เรียน และได้จัดกิจกรรมการแสดงในโอกาสพิเศษต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจัดซื้อจัดจ้างในแต่ละครั้งก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงานและร่างเอกสารการประกวดราคา (TOR) จำนวน 6 คน ซึ่งเป็นบุคลากรในสำนักการศึกษา อาทิครูดนตรีและผู้เกี่ยวข้อง เป็นผู้ร่างเอกสารประกวดราคาให้เป็นไปตามมาตรฐาน และขนาดของเปียโนก็มีมาตรฐานอยู่แล้ว ดังนั้นการจะล็อคสเป็คคงเป็นไปไม่ได้
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กำกับดูแลพื้นที่ กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าหลังจากพรรคยื่นหนังสือถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอเปิดประชุมหารือถึงการแก้ปัญหาการทุจริตใน กทม.ภายใต้การบริหารงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ว่าขณะนี้ยังไม่ได้หนังสือตอบกลับจาก คสช. ว่าจะอนุญาตให้พรรคนัดประชุมหรือไม่ ซึ่งหัวหน้าพรรคต้องการจะพบกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ให้เร็วที่สุด เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงว่าเหตุใดจึงเกิดปัญหาแบบนี้