ขอหมายจับผู้ต้องหาก่อเหตุระเบิด 3 จุดที่สุขุมวิท

ตำรวจนำหลักฐานผู้เกี่ยวข้องเหตุระเบิด ซอยสุขุมวิท 71 ขออนุมัติหมายจับ พร้อมประสานตำรวจมาเลเซียติดตาม 1 ในผู้ต้องสงสัยที่หลบหนี ขณะที่ ผบ.ตร.ยอมรับว่าวัสดุและลักษณะการต่อวงจรระเบิด คล้ายกับที่ใช้ก่อเหตุในอินเดียและจอร์เจีย แต่ยังไม่ชัดว่าเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่

พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปร่วมสอบปากคำนายฮัสซาอี โมฮัมบี 1 ในผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิดในซอยสุขุมวิท 71 และถูกจับได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยนายฮัสซาอีรับสารภาพว่าอยู่ในบ้านที่เกิดระเบิดจริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด ซึ่งขณะนี้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้ควบคุมตัวไว้สอบสวนแต่ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา

ส่วนนายซีดากาส ซาเดส มะซุด 1 ในผู้ต้องสงสัยที่พบว่าได้เดินทางไปประเทศมาเลเซียแล้ว โดยสายการบินแอร์เอเซียเมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจไทยได้ประสานตำรวจมาเลเซียเพื่อติดตามตัวแล้ว พร้อมขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

ส่วนวัตถุระเบิดที่กลุ่มผู้ก่อเหตุใช้ มีรายงานว่าคล้ายกับที่กลุ่มก่อการร้ายใช้ก่อเหตุในประเทศจอร์เจียและอินเดีย ทั้งการต่อวงจรและวัสดุที่ใช้

ส่วนที่บ้านที่เกิดระเบิดในจุดแรก วันนี้ (15 ก.พ.) เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เก็บหลักฐานอีกครั้ง พร้อมสรุปจำนวนวัตถุระเบิดที่พบ มีทั้งหมด 5 ลูก คือที่เกิดระเบิดในบ้านเช่า 1 ลูก เก็บกู้ได้ 2 ลูกในบ้านที่เกิดระเบิด รถแท็กซี่ 1 ลูก และระเบิดหน้าโรงเรียนเกษมพิทยา 1 ลูก

ส่วนชนิดของระเบิดพบเป็นชนิดแสวงเครื่อง ต่อวงจรโดยใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ ใช้ดินระเบิดซีโฟว์น้ำหนักประมาณ 4 ปอนด์ ใช้แกนระเบิดจากต่างประเทศ จุดชนวนด้วยการดึงสลักเหมือนชนิดขว้าง รัศมีการทำลายล้าง 3-5 เมตร ซึ่งผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานเป้าหมายเป็นตัวบุคคล ไม่ใช่ก่อวินาศกรรม หรือแหล่งชุมชนชาวต่างชาติ

ส่วนอาการของนายซาอิบ โมราบี ผู้ก่อเหตุและถูกระเบิดขาขาดทั้ง 2 ข้าง ซึ่งพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แพทย์ได้รักษาและผ่าตัดขาทั้ง 2 ข้างและช่วยเหลือจนพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ต้องเฝ้าระวังอาการแทรกซ้อนในห้องไอซียู และมีตำรวจเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง