ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ตร.ปฏิเสธข่าวขอออกหมายจับผู้ต้องสงสัยรายที่ 6 เอี่ยวบึ้มกรุงฯ

อาชญากรรม
21 ก.พ. 55
00:46
23
Logo Thai PBS
ตร.ปฏิเสธข่าวขอออกหมายจับผู้ต้องสงสัยรายที่ 6 เอี่ยวบึ้มกรุงฯ

ตำรวจปฏิเสธข่าวการยื่นขอออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีระเบิดที่ซอยสุขุมวิท 71 เพิ่มเติมเป็นรายที่ 6 แต่พบว่า ผู้ต้องหารายล่าสุดที่ออกหมายจับ คือนายนูโรซี ซายัน อารี อัคบาร์ อายุ 57 ปี เป็นแกนนำคนสำคัญในขบวนการการก่อเหตุระเบิดในครั้งนี้

ขณะที่ตำรวจพบหลักฐานสำคัญที่อาจเชื่อมโยงกับการก่อเหตุระเบิดเป็นสติ๊กเกอร์ที่มีอักษรภาษาอังกฤษ S-E-J-E-A-L ซึ่งติดอยู่หลายจุดบริเวณเลียบทางด่วนเพลินติตฝั่งใต้ และยังพบสติ๊กเกอร์ลักษณะเดียวกันในห้องพักย่านคลองตันที่ตำรวจเคยเข้าตรวจค้นก่อนหน้านี้ โดยมีข้อสันนิษฐานว่า อาจเป็นสัญลักษณ์การกำหนดจุดในการก่อเหตุ

สติ๊กเกอร์จำนวน 52 แผ่น ที่ถูกติดไว้ตามป้ายโฆษณา เสาเหล็ก เสาไฟฟ้าและตู้โทรศัพท์ ตั้งแต่ใต้สะพานลอยคนข้าม ถนนดวงพิทักษ์ แขวงลุมพินี เขตคลองเตย เรื่อยมาที่เลียบทางด่วนเพลินจิตฝั่งใต้ และ ใกล้โรงงานยาสูบ ยาวไปจนถึงปากซอยร่วมฤดี ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าทำการตรวจสอบ พบว่า สติ๊กเกอร์ดังกล่าว มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ S-E-J-E-A-L เบื้องต้นได้ทำการตรวจหารอยนิ้วมือและดีเอ็นเอของผู้แปะสติ๊กเกอร์แล้ว

สำหรับสติ๊กเกอร์ที่มีตัวอักษร S-E-J-E-A-L มีรายงานว่า ตัวอักษรดังกล่าว มีความหมายว่า "จากดินสู่ฟ้า" เป็นสัญลักษณ์ความรุนแรงของชาวอิหร่าน โดยสติ๊กเกอร์ดังกล่าว เป็นสติ๊กเกอร์ลักษณะเดียวกับที่ตำรวจตรวจพบในห้องเช่า ย่านคลองตัน ที่นางโรฮานี ไลลา หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาชาวอิหร่านเช่าไว้ แล ะเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังเป็นสติ๊กเกอร์แบบเดียวกับที่ตรวจพบในรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยของกลุ่มผู้ต้องหาด้วย

เบื้องต้นจึงมีรายงานว่าสติ๊กเกอร์ที่พบ น่าจะมีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น โดยอาจเป็นการกำหนดจุดของกลุ่มผู้ต้องหา ที่หวังจะลอบสังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอล ที่จะใช้ถนนดังกล่าวเป็นเส้นทางสัญจร ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า กลุ่มผู้ต้องหา หวังจะใช้จักรยายนต์ติดตั้งระเบิดแสวงเครื่องและไปจอดไว้ในจุดที่ติดสติ๊กเกอร์

ส่วนความคืบหน้าในการติดตามผู้ต้องหาสำหรับผู้ต้องหารายล่าสุดที่ถูกออกหมายจับเป็นรายที่ 5 มีการยืนยันจากตำรวจแล้วว่า คือ นายนูโรซี ซายัน อารี อัคบาร์ อายุ 57 ปี โดยพบข้อมูลว่า เดินทางเข้าเมืองไทยมาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เมื่อเวลา 21.00 น. และ ออกจากบ้านเช่าเลขที่ 66 ซอยปรีดีพนมยงค์ 31 ไปขึ้นแอร์พอร์ตลิงค์ที่สถานีรามคำแหงมุ่งหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนออกจากประเทศไทยมุ่งหน้าไปยังกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน 

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เวลา 08.50 น. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เหตุระเบิดเกิดขึ้นในช่วงบ่าย ตำรวจยังคาดการณ์ด้วยว่า ผู้ต้องหารายนี้ อาจเป็นตัวการสำคัญ และ เป็นหัวหน้าขบวนการในการก่อเหตุครั้งนี้ ซึ่งอาจเชื่อมโยงต่อการเดินทางมายังประเทศไทยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอล

ส่วนนายมูฮัมหมัดฮาซาอิ ผู้ต้องหาอีกรายหนึ่งที่ถูกควบคุมตัวได้ระหว่างพยายามหลบหนีออกนอกประเทศในวันที่เกิดเหตุระเบิด เมื่อวานนี้ ( 20 ก.พ.) ตำรวจได้นำตัวไปชี้จุดที่ นายฮาซาอิ บอกว่าอยู่ในวันที่เกิดเหตุ จุดแรกคือที่ บ้านเช่าในซอยปรีดีพนมยงค์ ซึ่งเกิดระเบิดจุดแรก จากนั้นเป็นจุดที่แอร์พอตลิ้ง ซึ่งนายฮาซาอิ ใช้เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อหลบหนี จนถึงขณะนี้ ผู้ต้องหารายนี้ยังให้การภาคเสธ และไม่ยอมรับว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด แต่ยอมรับว่า เดินทางไปบ้านที่เกิดระเบิดจริง

ส่วนการดำเนินคดีตำรวจ แจ้งข้อหา ร่วมกันทำและประกอบวัตถุระเบิด ร่วมกันมีไว้ซึ่งวัตถุระเบิดในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย และ ในวันนี้(21 ก.พ.) ตำรวจจะนำนายฮาซาอิ ไปฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน

ขณะที่อาการบาดเจ็บของ นายซาอิด โมราบิ ผู้ต้องหาที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย แจ้งว่า ระหว่างวันที่ 17-20 กุมภาพันธ์ 2555 อาการผู้ป่วยมีความรู้สึกตัวดี มีสัญญาณชีพปกติ แต่มีไข้ต่ำหายใจดี ไม่มีอาการเหนื่อย สำหรับตาขวายังคงปิดไว้ แผลไฟไหม้บริเวณใบหน้า เป็นแผลแห้งตกสะเก็ด

ส่วนแขนทั้ง 2 ข้าง และบริเวณอก หน้าท้องด้านซ้าย รวมทั้งรอยสะเก็ดระเบิดบริเวณแผ่นหลัง ยังไม่พบการติดเชื้อของบาดแผล หรือระบบอื่น โดยผู้ป่วยเริ่มรับประทานอาหารได้ และคณะแพทย์ได้วางแผนนำผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดเพื่อปิดแผลที่ขาทั้ง 2 ข้าง เนื่องจากยังเปิดแผลทิ้งไว้ ตั้งแต่การผ่าตัดในครั้งแรก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งหลังจากการผ่าตัด คณะแพทย์และพยาบาลยังคงต้องดูแลผู้ป่วยรายนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง