นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สหภาพยุโรป (EU) ได้ออก Commission Implementing Decision ลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 แก้ไข Decision 2008/911/EC เกี่ยวกับรายชื่อสารสมุนไพร (herbal substance) สมุนไพรปรุงสำเร็จ (herbal preparation) และส่วนผสมสมุนไพร (herbal combination) เพื่อใช้เป็นผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรแผนโบราณ ตามความเห็นของคณะกรรมาธิการผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรขององค์กรยายุโรป (European Medicines Agency) เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2553 กำหนดให้สาร 2 รายการ เป็นสารสมุนไพรที่ใช้สำหรับมนุษย์ ดังนี้
1) Thymus vulgaris L., Thymus zygis Loefl. Ex L. : น้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากดอกไม้
2) Vitis vinifera L. : ใบองุ่น (grapevine leaf)
นายสุรศักดิ์ กล่าว่า ไทยส่งออกสมุนไพรและสารสกัดจากสมุนไพรไปอียู มูลค่าเพียงเล็กน้อย คือ 20 ล้านบาทต่อปี (2552 – 2554) ในปี 2554 ส่งออกมูลค่า 14 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับปี 2553 อย่างไรก็ดี ไทยมีศักยภาพในการผลิตสมุนไพรและมูลค่าการส่งออกอาจเพิ่มขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยที่จะส่งผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรไปอียู ต้องได้รับการจดทะเบียนตามระเบียบ Directive 2004/24/EC ว่าด้วยผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร โดยให้ติดต่อผู้นำเข้าหรือผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ของตนในอียู ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องจดทะเบียนหรือไม่ หากจำเป็นต้องจดทะเบียน ผู้นำเข้าควรประสานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ (competent authority) ในประเทศที่จะวางจำหน่าย ผู้สนใจสามารถสืบค้นรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกำหนดต่างๆ รวมถึงแนวทางการจดทะเบียนได้จากเว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการผลิตภัณฑ์ยาแผนโบราณของ EU ได้ที่ http://www.ema.europa.eu/ema/index.jspcurl=pages/regulation/general/gene...