วันที่ 16 ธ.ค.2558 ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 และธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด มหาชน หรือบีบีซี ร่วมกัน เป็นโจทก์ฟ้องนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บีบีซี นายจิตตสร ปราโมช ณ อยุธยา อดีตรองผู้อำนวยการ สำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ ม.ร.ว.ดำรงเดช ดิศกุล อดีตผู้บริหารอาวุโส สำนักบริหารเงินและวิเทศกิจ และหม่อมราชวงศ์หญิงสุภาณี สารสิน หรือดิศกุล อดีตรองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดบีบีซี ในความผิดร่วมกันยักยอกทรัพย์ ร่วมกันวางแผนอนุมัติขายหุ้นเพิ่มทุนของบีบีซีกับนายราเกซ สักเสนา โดยไม่ตรวจสอบประวัติฐานะของบริษัทผู้เข้ามาจองซื้อหุ้น จำนวน 260 ล้านหุ้น และร่วมกันอนุมัติสินเชื่อให้กับบริษัทเอกชน
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีนี้เป็นอาชญากรรมทางธุรกิจ มีผู้ร่วมกระทำผิดหลายคน พิพากษาให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ มาตรา 308 จำคุกจำเลย คนละ 6 ปี 8 เดือน ปรับคนละ 666,666 บาท และร่วมชดใช้เงินกับนายเกริกเกียรติเป็นเงินกว่า 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนนายเกริกเกียรติที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 50 ปี แต่ตามกฎหมายให้จำคุก 20 ปี และให้คืนเงินบีบีซีด้วยจำนวนเงินกว่า 167 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ จำเลยที่ 1 ได้เสียชีวิตระหว่างการยื่นฎีกา