ความสำเร็จ The Artist บนเวทีออสการ์ บทพิสูจน์การเล่าเรื่องด้วยภาพขาวดำ 
แม้เป็นเพียงขนนกตกพื้นแต่เสียงที่ จอร์จ วาเลนติน ได้ยินไม่ต่างจากเสียงกระสุนปืนใหญ่เป็นการเปรียบเปรยความรู้สึกดั่งฝันร้ายของนักแสดงหนังเงียบผู้ถูกทิ้งอยู่ในยุคที่วงการภาพยนตร์พัฒนาไปสู่การบันทึกเสียง คือ ฉากสำคัญที่สะท้อนถึงความยากลำบากของศิลปินที่ต้องปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงที่มีขึ้นตลอดเวลาของโลกใน The Artist เจ้าของรางวัลออสการ์ 5 สาขา ซึ่งการคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเป็นเหมือนสิ่งยืนยันความสำเร็จของภาพยนตร์ทุนสร้างเพียง 15 ล้านเหรียญที่สามารถครองใจแฟนหนังทั่วโลกจากการนำเสน่ห์ดั้งเดิมของภาพยนตร์อย่างการเล่าเรื่องด้วยภาพกลับมาสร้างความบันเทิงแก่ผู้ชมในยุคนี้อีกครั้ง
อีกเรื่องที่คว้ามาได้ 5 รางวัลได้แก่ Hugo ผลงานที่ผู้กำกับ มาร์ติน สกอร์เซซี นำแฟนหนังในยุค 3 มิติกลับไปตื่นตากับศิลปะการสร้างภาพยนตร์ในยุคบุกเบิก ซึ่งเปรียบดั่งการสร้างความฝันให้เป็นจริงแก่ผู้ชม ซึ่งสิ่งเหล่านั้นได้กลายเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในฮอลลีวูดจนเป็นที่ยอมรับของแฟนหนังทั่วโลกในวันนี้
ที่ได้รับการจับตาปีนี้คือชัยชนะครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของตัวแทนจากอิหร่าน ที่คว้ารางวัลในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศได้จากเรื่อง A Separation ภาพยนตร์ที่สะท้อนชีวิตครอบครัวสมัยใหม่ ที่ต้องทนอยู่ภายใต้ความเข้มงวดของประเทศที่เต็มไปด้วยกฏเกณฑ์ซึ่งการเข้าชิงครั้งนี้ได้รับการชื่นชมพอ ๆ กับเสียงวิจารณ์ในอิหร่าน ซึ่ง อัสการ์ ฟาฮาดี ผู้กำกับยอมรับว่า เขายังไม่รู้ว่า ทางการจะมีท่าทีต่อชัยชนะครั้งนี้เช่นไร แต่ยินดีที่เนื้อหาอันเป็นสากลทำให้หนังเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก
รางวัลใหญ่ทางการแสดงปีนี้เกือบไม่มีการพลิกโผ ทั้ง ฌอง ดูฌาร์แดง ผู้กลายเป็นนักแสดงชายฝรั่งเศสคนแรกที่คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก The Artist ขณะที่สาขานักแสดงสมทบหญิงตกเป็นของ อ็อคตาเวีย สเปนเซอร์ จาก The Help และ คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ นักแสดงวัย 82 ปี ยังกลายนักแสดงอาวุโสที่สุดที่คว้าออสการ์ในสาขานักแสดงสมทบชายจากเรื่อง Beginners
ออสการ์ปีนี้ยังเป็นการสิ้นสุดการรอคอยออสการ์ตัวที่ 3 ในชีวิตของ เมอรีล สตรีป หลังพบแต่ความพ่ายแพ้ในการเข้าชิงมาถึง 12 ครั้งในเกือบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมาซึ่ง 10 ปีมาแล้วที่นักแสดงวัย 62 ปีได้พิสูจน์ฝีมือด้วยบทบาทอันหลากหลายในภาพยนตร์ชั้นยอดมากมาย รวมถึงบทนำเรื่องล่าสุดใน The Iron Lady ถ่ายทอดชีวิตบั้นปลายของสตรีเหล็ก มาร์กาเร็ต แทชเชอร์ ทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ที่คว้าออสการ์มาได้ถึง 3 ครั้ง