นายกฯรับปรับแผนบริหารน้ำใหม่
หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จสิ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้กำชับ ครม.ให้ปรับแผนบริหารจัดการน้ำทั้งระบบให้สอดคล้องกับพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยสั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำหน้าที่ระบายน้ำ ด้วยการคำนึงถึงประโยชน์เพื่อการเกษตรเป็นหลัก จากเดิมให้ใช้ต้นแบบจากเขื่อนภูมิพล และสิริกิติ์ ซึ่งคงน้ำไว้ร้อยละ 45 แต่ตอนนี้ต้องปรับให้รับกับภาวะน้ำแล้งและน้ำท่วม อาจเป็นร้อยละ 50 หรือร้อยละ 60 ตามสภาพพื้นที่และย้ำว่าให้สรุปพื้นที่รับน้ำ 2 ล้านไร่ภายใน 1 เดือนนี้
นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่ายังไม่มีแนวคิดที่จะทำถนนเป็นฟลัดเวย์ เว้นการแก้ปัญหาเฉพาะ เช่นเดียวกับข้อเสนอให้มีการตั้งบรรษัทดูแลเรื่องการปลูกป่าต้นน้ำ ที่ยอมรับว่าเป็นแนวคิดที่ดี แต่ยังไม่ได้พิจารณาในรายละเอียด ทั้งนี้กล่าวย้ำว่าภายในสัปดาห์หน้า จะลงพื้นที่ติดตามการขุดลอกคูคลองในพื้นที่ปลายน้ำอีกครั้ง เนื่องจากเห็นว่าการดำเนินการยังเข้าข่ายล่าช้า
ส่วนการประชุม ครม.วันนี้ ครม. รับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ รวม 2 คณะ
โดยคณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ หรือ กนอช. ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานนั้นจะมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นรองประธาน โดยมีรัฐมนตรี, ปลัด,อธิบดีในกระทรวงที่เกี่ยวข้อง, ผบ.เหล่าทัพ และผบ.ตร.ร่วมเป็นกรรมการ นอกจากนั้นก็มี นายสุเมธ ตันติเวชกุล, ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล, นายดิสธร วัชโรทัย ,นายวีรพงษ์ รามางกูร, นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา, นายกิจจา ผลภาษี ร่วมเป็นที่ปรึกษา
ส่วนคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ. มีนายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นประธาน และมีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เป็นรองประธาน สำหรับกรรมการ ก็จะมีทั้งปลัดกระทรวง และอธิบดีกรมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ว่าฯกทม. ร่วมเป็นกรรมการ โดยมีนายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เป็นเลขาธิการสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ
และตามโครงสร้าง กบอ. จะมีหน้าที่จัดทำแผนปฏิบัติการและดำเนินการบริหารจัดการน้ำ และอุทกภัยตามนโยบายของ กนอช. ซึ่ง กนอช. จะกำหนดวิธีดำเนินการของหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยเป็นไปโดยเหมาะสม และสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการของรัฐบาล